ภาพจำของแฟนบอลชาวไทยเวลาที่ อังกฤษ ปะทะ เยอรมนี ในสนามฟุตบอล คือสองทีมที่ห้ำหั่นและเป็นอริกันมายาวนาน
อย่างที่ทราบกันว่า สิงโตคำราม เอาชนะ อินทรีเหล็ก ในรอบชิงชนะเลิศศึกฟุตบอลโลก 1966 โดยมีประตูเจ้าปัญหาของ เจฟฟ์ เฮิร์สต์ เป็นข้อถกเถียงกันว่าตกลงแล้วมันเข้าหรือไม่เข้ากันแน่
วันเวลาผ่านมาเกินครึ่งศตวรรษ แฟนบอลชาวเยอรมันลืมเลือนเหตุการณ์ดังกล่าวไปแล้ว มีเพียงสาวก ทรี ไลออนส์ ที่ยังคงขุดวีรกรรมซึ่งถือเป็นความสำเร็จแรกและความสำเร็จเดียวในเวที “เมเจอร์” มาคุยฟุ้งเมื่อต้องดวลกับทัพจากเมืองเบียร์
หรือแม้แต่ชัยชนะ 5-1 เมื่อปี 2001 ที่ สิงโตคำราม บุกลูบคม เยอรมนี ถึงกรุงเบอร์ลิน ก็ถือเป็นหนึ่งในเกมแห่งความทรงจำของพวกเขา
จะว่าไปแล้วหากย้อนไปดูประวัติศาสตร์และมุมมองต่างๆ ระหว่าง อังกฤษ กับ เยอรมนี ในโลกลูกหนัง มันเหมือนกับเรื่องราวที่ “เกลียด” เขาข้างเดียว และยกให้อีกฝ่ายเป็น “อริ” เสียมากกว่า
เพราะหากลองไปถามแฟนบอลเยอรมันท้องถิ่นจริงๆ หรือบรรดาสื่อจากเมืองเบียร์แล้ว พวกเขามองว่า เนเธอร์แลนด์ เป็นอริเบอร์ 1 มากกว่าทาง อังกฤษ เสียอีก เนื่องจากอัศวินสีส้มเป็นคู่แข้งตัวฉกาจของพวกเขาในยุค 70-80
เหตุผลสำคัญที่ทำให้ภาพจำของแฟนบอลชาวไทย ‘รู้สึก’ ว่า อังกฤษ กับ เยอรมนี เกลียดกันในสนามฟุตบอลมาจากบรรดาสื่อของเมืองผู้ดีที่มักจะประโคมข่าวใหญ่เสมอเมื่อ ทรี ไลออนส์ ต้องดวลกับ อินทรีเหล็ก
อย่างที่เรียนไปว่า “สื่อ” เมืองผู้ดีมีผลอย่างมาก เพราะพวกเขาเป็นประเทศที่มีสื่อหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ๆ หลายเจ้า ซึ่งเมื่อถึงเวลาที่ต้องดวลกับ เยอรมนี มักจะเห็นเรื่องราวมากมายผ่านตัวหนังสือและหน้ากระดาษเหล่านั้น
ในไทยเองก็ได้รับอิทธิพลมาจากสื่อที่ว่าเช่นกัน เพราะหากเรียนกันตามตรงบรรดาสื่อหรือสิ่งพิมพ์ต่างๆ ในสมัยก่อน (รวมถึงสมัยนี้) ก็มาจากอังกฤษ บรรดาข่าวสารฟุตบอลต่างประเทศส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่มาจากสื่อแดนผู้ดีแทบทั้งหมด
มันจึงค่อยๆ ซึมซับและใส่ภาพจำลงเหล่านั้นลงไปในความคิดแฟนบอลทีละน้อยจนกลายเป็นความรู้สึกคล้อยตามที่ว่าสองทีมนี้เป็นอริในสนามฟุตบอลเพราะมาจากการเสพสื่ออังกฤษนั่นเอง
แต่สำหรับ เยอรมนี พวกเขาไม่ได้ใส่ใจเลยว่าการเจอกับ อังกฤษ จะเป็นเช่นไร หรือมองฝ่ายตรงข้ามเป็นอริที่จงเกลียดจงชัง แน่นอนว่าเป้าหมายในการลงสนามคือชัยชนะและเดินหน้าต่อไป แต่หากพูดถึงความเจ็บแค้นในอดีตกับเหตุการณ์สำคัญๆ ที่มีเกิดจาก สิงโตคำราม แทบจะไม่มีในความคิดของพวกเขาเลย
ความพ่ายแพ้ในปี 1966 หรือการโดนถล่มคาบ้านในปี 2001 ไม่ได้ทำให้แฟนบอลเยอรมันท้องถิ่นเจ็บปวดใจ และว่ากันว่าพวกเขาลืมเลือนมันไปแล้วแทบทั้งหมดแล้ว
กระนั้นการเจอกันหนนี้ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูโร 2020 ความเดือด ความมัน และศักดิ์ศรีที่ค้ำคอทำให้ทั้งสองทีมไม่มีใครยอมใครแน่นอน โดยเฉพาะ อังกฤษ ที่ยังคงจำฝังแค้นจากฟุตบอลโลก 2010 ซึ่งโดน อินทรีเหล็ก ถล่ม 1-4 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
สำหรับ “ทรี ไลออนส์” นี่คือเวลาแห่งการล้างแค้น และเชื่อว่าแฟนบอลชาวไทยจะได้เห็นการประโคมข่าว หรือขุดเรื่องราวในอดีตออกมาให้เห็นอีกครั้ง บรรดาสื่อเมืองผู้ดีจะจัดการละเลงพร้อมสุมไฟก่อนการลงสนามในวันที่ 29 มิถุนายนนี้แบบจัดเต็ม
ฝั่ง อินทรีเหล็ก ถือเป็นหนึ่งในทีมชาติที่ประสบความสำร็จมากที่สุดในเวทีโลกลูกหนัง การันตีด้วยแชมป์ฟุตบอลโลก 4 สมัย และ ยูโร อีก 3 สมัย ซึ่งหากนับรวมการเข้าชนะเลิศรายการใหญ่ พวกเขาเข้าไปถึง 14 หนชนิดที่กินขาด อังกฤษ แบบไม่เห็นฝุ่น
อย่างไรก็ตาม การเจอกันของทั้งสองทีมมักจะเรียกแขกได้เสมอ ความสนใจพุ่งตรงไปที่บิ๊กแมตช์ ณ สนาม เวมบลีย์ แบบไม่ต้องสงสัย
ยิ่งเกมนี้ลงเล่นในบ้านของ สิงโตคำราม ยิ่งทำให้แฟนบอลเมืองผู้ดีพร้อมจัดเต็มในการต้อนรับ “อริ” ของพวกเขา
แต่ท้ายที่สุดผลงานในสนามจะเป็นตัวกำหนดทิศทางหลังจากนั้น แฟนบอลอังกฤษจะได้ล้างแค้นอย่างที่ต้องการหรือไม่ หรือจะเป็น อินทรีเหล็ก ที่บุกมาจิก สิงโตคำราม ถึงถิ่น พร้อมหยุด “ความฝัน” ของผองชนอิงลิชอีกครั้ง
แฟนบอลบ้านเราเตรียมถูมือรอความสนุกไว้ได้เลย….
-แมนคูเนี่ยน-
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น