“เสือใต้”บาเยิร์น มิวนิค ถอนเเค้น เฉือนเอาชนะจุดโทษ “สิงห์บูลส์”เชลซี 5-4 หลังเสมอกันในช่วงต่อเวลา 2-2 พร้อมกับคว้าเเชมป์ฟุตบอลยูฟ่าซูเปอร์ คัพ ไปครอง
ฟุตบอลยูฟ่าซูเปอร์ คัพ 2013 วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม 2556 สนาม : อีเดน อารีน่า, สาธารณรัฐเช็ก
เริ่มเกมมา 3 นาที “เสือใต้”บาเยิร์น มิวนิค ได้โอกาสลุ้นก่อน ราฟินญ่าเปิดบอลจากด้านฝั่งขวา ให้กับ มาริโอ มานด์ซูคิชได้โหม่งบอลหลุดเสาออกไป
นาทีที่ 6 โธมัส มุลเลอร์จ่ายบอลทะลุช่องให้กับ ฟร้องค์ ริเบรี่หลุดขึ้นมาด้านฝั่งซ้ายก่อนจะยิงบอลหลุดเสาเเรกออกไป
นาทีที่ 8 “สิงห์บูลส์”เชลซี ได้ประตูขึ้นนำ บาเยิร์น มิวนิค ก่อน 1:0 จากจังหวะที่อังเดร ชูร์เล่ตวัดบอลจากด้านริมเส้นฝั่งขวา ให้กับ ตอร์เรส ยิงเต็มข้อบอลพุ่งผ่านมือ มานูเอล นอยเออร์ เข้าไปตุงตาข่าย
นาทีที่ 16 ออสการ์ไหลบอลทะลุช่องให้กับ เฟอร์นานโด ตอร์เรส หลุดขึ้นมาด้านฝั่งขวาก่อนจะยิงบอลโด่งข้ามคานออกไป
นาทีที่ 22 มาริโอ มานด์ซูคิชส่งบอลคืนหลังให้กับ ฟร้องค์ ริเบรี่บรรจงยิงจากเเถวสอง ปีเตอร์ เช็กต้องพุ่งปัดทิ้งไป
นาทีที่ 30 อังเดร ชูร์เล่ตวัดบอลจากด้านริมเส้นฝั่งขวา ให้กับ เฟอร์นานโด ตอร์เรสพลิกบอลหลบ ดันเต้ ก่อนจะยิงบอลโด่งข้ามคานออกไป
นาทีที่ 40 อาร์เยน ร็อบเบนจ่ายบอลทะลุช่องให้กับโธมัส มุลเลอร์ หลุดขึ้นมาด้านฝั่งขวา ก่อนจะยิงไปติดแกรี่ เคฮิลล์ออกไป
เริ่มเกมครึ่งหลังมาเเค่ 2 นาที บาเยิร์น มิวนิค ตามตีเสมอ เชลซี 1-1 ได้สำเร็จ จากลูกยิงไกลด้วยเท้าขวาของฟร้องค์ ริเบรี่
นาทีที่ 62 อังเดร ชูร์เล่ฉกบอลจากความผิดพลาดของ ดันเต้ ก่อนจะจ่ายบอลให้กับออสการ์ได้หลุดเข้าไปยิง แต่จังหวะสุดท้าย มานูเอล นอยเออร์ ปัดทิ้งออกไปได้
นาทีที่ 72 อาร์เยน ร็อบเบนไหลบอลจากด้านริมเส้นฝั่งขวา ให้กับโทนี่ โครสได้ลองยิงไกล บอลหลุดเสาเเรกออกไป
นาทีที่ 78 แฟร้งค์ แลมพาร์ด เปิดลูกเตะมุมฝั่งขวา ให้ ดาวิด หลุยซ์ โหม่งชงต่อให้กับ บรานิสลาฟ อิวาโนวิชได้โขก บอลไปชนคานกระดอนออกไป
นาทีที่ 82 มาริโอ มานด์ซูคิชเปิดจากด้านฝั่งซ้าย ให้กับ โทนี่ โครส สอดมายิงบอลติด ดาวิด หลุยซ์โด่งข้ามคานออกไป
แต่นาทีที่ 85 เชลซีต้องเหลือผู้เล่นเพียงเเค่ 10 คน เมื่อ รามิเรส เจตนาย่ำใส่ มาริโอ เกิทเซ่ โยนาส อีริคส์สันผู้ตัดสินเเจกใบเหลืองที่สอง กลายเป็นใบแดง ไล่ออกจากสนามไป
จบ 90 นาที บาเยิร์น มิวนิค เสมอกับ เชลซี 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที
นาทีที่ 93 เชลซี ได้ประตูขึ้นนำ บาเยิร์น มิวนิค เป็น 2-1 จากความสามารถเฉพาะตัวของเอแด็น ฮาซาร์ที่ลากบอลจากด้านริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนจะยิงบอลผ่านมือมานูเอล นอยเออร์เข้าไปตุงตาข่าย
นาทีที่ 109 ฆาบี มาร์ติเนซ เปิดบอลจากด้านฝั่งซ้าย ให้กับ มาริโอ มานด์ซูคิชได้โหม่ง ปีเตอร์ เช็ก ต้องปัดทิ้งออกจากเส้นปากประตู
นาทีที่ 113 ฆาบี มาร์ติเนซโหม่งบอลชงให้กับ เซอร์ดาน ชากิรี่ได้ยิงจ่อๆ บอลหลุดออกนอกกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 117 ฟร้องค์ ริเบรี่ได้ปั่นฟรีคิกด้วยเท้าขวา เเต่จังหวะสุดท้าย ปีเตอร์ เช็ก ยังลอยตัวปัดออกจากปากตูออกไปได้
นาทีที่ 120 ดันเต้ จ่ายบอลให้กับ ฆาบี มาร์ติเนซ หลุดขึ้นไปด้านฝั่งซ้าย ก่อนจะยิงบอลผ่านมือปีเตอร์ เช็กเข้าไป บาเยิร์น มิวนิค ตามตีเสมอ เชลซี 2-2 ได้สำเร็จ
จบ 120 นาที บาเยิร์น มิวนิค เสมอกับ เชลซี 2-2 ต้องตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ และสุดท้ายบาเยิร์นดวลเป้าได้แม่นกว่าเอาชนะไป 5-4 คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ
รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนามของทั้งสองทีม
บาเยิร์น มิวนิค (4-3-3) : มานูเอล นอยเออร์ – ราฟินญ่า(ฆาบี มาร์ติเนซ น.55),เจอร์โรม บัวเต็ง,ดันเต้,ดาวิด อลาบา – ฟิลิปป์ ลาห์ม,โทนี่ โครส,โธมัส มุลเลอร์(มาริโอ เกิทเซ่ น.69) – อาร์เยน ร็อบเบน(เซอร์ดาน ชากิรี่ น.95),มาริโอ มานด์ซูคิช,ฟร้องค์ ริเบรี่
เชลซี ระบบ (4-2-3-1) : ปีเตอร์ เช็ก – บรานิสลาฟ อิวาโนวิช,ดาวิด หลุยซ์,แกรี่ เคฮิลล์,แอชลี่ย์ โคล – รามิเรส,แฟร้งค์ แลมพาร์ด – อังเดร ชูร์เล่,ออสการ์,เอแด็น ฮาซาร์ (จอห์น เทอร์รี่ น.115) – เฟอร์นานโด ตอร์เรส(โรเมลู ลูกากู น.97)
เรื่อง/เรียบเรียง : แมนคูเนี่ยน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น