ขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์หน้า เมดอินบราซิเลี่ยน แล้วนั้น การันตีคุณภาพการถล่มประตูได้เป็นอย่างดี ในช่วงยุค 90 ถึงปัจจุบัน บราซิล มีกองหน้าชั้นดีมากมาย จึงทำให้บางคน แม้ว่าจะเล่นดีในสโมสรเพียงใด แต่โอกาสในทีมชาติก็น้อยนิดซะเหลือเกิน และหนึ่งในคนที่เป็นเช่นนั้นคือ โจวานนี่ เอลแบร์
โจวานนี่ เอลแบร์ เป็นยอดกองหน้าชั้นดีคนหนึ่งของเวทีบุนเดสลีกา เขามีลีลาการเล่นแตกต่างจากบรรดากองหน้าบราซิลเลี่ยนทั่วไป เป็นประเภทมือปืนในกรอบเขตโทษ จอมเข้าฮอส ประเภทโป้งปิดบัญชี ไม่ได้มีลีลากระชาก ลากเลื้อย สวยงาม แบบกองหน้าบราซิลคนอื่นๆ
ช่วงวัย 18 ปี เอซี มิลาน ควักกระเป๋า 1 ล้านปอนด์ ชื้อเอลแบร์ จากทีมบ้านเกิดในบราซิล มาสวมเสื้อปีศาจแดงดำ แต่ยุคนั้น มีกองหน้าระดับพระกาฬเพชรฆาตพรายกระซิบ
อย่าง มาร์โก ฟาน บาสเท่น ที่โชว์ฟอร์มเด่นอยู่ เด็กหนุ่มเอลแบร์ จึงไม่อาจสอดแทรกขึ้นมาชุดใหญ่ได้ เขาถูกปล่อยให้ กราสฮอปเปอร์ ซูริกช์ ในลีกสวิส ยืมตัวไปใช้งาน และโชว์ฟอร์มได้ดี ยิงไป 43 ประตู จากการลงเล่น 73 นัดในลีกนาฬิกา ค่าเฉลี่ย 2 ต้องมี 1 ประตูเลยทีเดียวก่อนจะถูกม้าขาว สตุ๊ตการ์ท ในบุนเดสลีก้า คว้าตัวไปร่วมทีมแบบถาวรในปี 1994 ด้วยค่าตัว 1.6 ล้านปอนด์
3 ฤดูกาล กับการซัด 44 ประตูให้ม้าขาว ก็ยากนักที่ทีมจอมดูดอย่าง เสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค จะปล่อยให้ลอยนวล แท็คติกการดูดทรัพยากรร่วมลีกจึงเกิดขึ้น ในปี 1997 เสือใต้จ่ายถึง 6.5 ล้านปอนด์ เพื่อคว้าตัวศูนย์หน้าบราซิล แต่มีลีลาการเล่นสไตล์ยุโรป เข้ามาเป็นหัวหอกเพื่อช่วยทีมไล่ล่าแชมป์
กว่า 6 ฤดูกาลในสีเสื้อ บาเยิร์น มิวนิค 92 ประตูในเกมลีก และ 139 ประตู ในทุกรายการ เป็นดาวซัลโวสูงสุดบุนเดสลีกา 1 ครั้งในฤดูกาล 2002-03 ไม่ต้องสงสัยว่า เขาคือสุดยอดดาวยิงคนหนึ่งในภาคพื้นยูโรป้า
ในวัย 31 ปี เขาย้ายจาก เสือใต้ ไปร่วมทีม โอลิมปิค ลียง ยอดทีมจากลีกเอิง ในปี 2003 ด้วยค่าตัว 4.2 ล้านปอนด์ ลงเล่นไปทุกราย 39 นัดใน 2 ฤดูกาล ทำได้ 14 ประตู ก่อนจะย้ายกลับมา บุนเดสลีก้า กับ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค แบบไม่มีค่าตัว ในปี 2005 แต่ก็ไม่ค่อยได้ลงสนามแล้ว และถูกปล่อยตัวกลับบ้านเกิด ครูไซโร่ และ แขวนสตั๊ดที่นั้นเอง
แม้ในช่วงเวลาที่รับใช้ ม้าขาว กับ เสือใต้ จะเป็นช่วงเวลาที่พีคสุดขีดของเจ้าตัว พาม้าขาวคว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล 1 ครั้ง พาเสือใต้ คว้า บุนเดสลีกา 4 ครั้ง แชมป์เปี้ยนสลีก 1 ครั้ง เดเอฟเบ โพคาล 3 ครั้ง เป็นดาวซัลโวบุนเดสลีกา 1 ครั้ง
แต่กระนั้นก็ยังไม่ดีพอในการจะไปเบียดแย่งตำแหน่งในทีมชาติ (ช่วงนั้นในทีมชาติจะมี เบเบโต้, โรมาริโอ้, โรนัลโด้ (R9), ริวัลโด้ เป็นหลัก) มันก็น่าน้อยใจแทนเจ้าตัวอยู่ไม่น้อยทีเดียว เขามีโอกาสรับใช้ชาติเพียง 15 เกมเท่านั้น ถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับ กองหน้ารายอื่นของบราซิล ราคาบอลไหล
เขาไม่เคยมีชื่อติดทีมไปฟุตบอลโลกเลย แม้แต่สมัยเดียว โคปา อเมริกา ก็ไม่เคยได้เล่น เคยได้เล่นทีมชาติระดับทัวร์นาเมนต์อยู่หนเดียว เมื่อปี 1998 ตอนที่บราซิล ถูกเชิญไปเล่นรายการ คอนคาเคฟ โกลด์ คัพ ในรายการนั้น เขายิงได้ 2 ประตู และบราซิล คว้าอันดับ 3 ไปครอง
มี “เดอะคิง” หลายคนที่เล่นในระดับสโมสรได้สุดยอด แต่ถูกมองข้ามในระดับทีมชาติด้วยหลากหลายเหตุผลแตกต่างกันไป โจวานนี่ เอลแบร์ ก็เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ปฎิเสธไม่ได้ว่า เขาคือ ศูนย์หน้าระดับตำนานของ บาเยิร์น มิวนิค อย่างไม่ต้องสงสัย …
-แมนคูเนี่ยน-
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น