อาร์เซน่อล หมดโอกาสลุ้นคว้าแชมป์ไปแล้วรายการแรกในฤดูกาลนี้หลังตกรอบ คาราบาว คัพ จากการพ่ายคาบ้านต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยับเยิน 1-4 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ
การตกรอบลีก คัพ ไม่ใช่เรื่องเสียหายเพราะเป็นรายการที่สำคัญน้อยสุด ในหลายฤดูกาลที่ผ่านมาตั้งแต่ยุคของ อาร์แซน เวนเกอร์ จนถึงปัจจุบัน มักเป็นเวทีให้ดาวรุ่งและตัวสำรองได้โอกาสลงสนามอยู่แล้ว
แต่หากพิจารณาให้ดีก็น่าเสียดายแทน อาร์เซน่อล ที่ทิ้ง “โอกาส” ดีๆ ไปหลายเรื่องในการลงสนามนัดล่าสุดในถ้วยนี้
1) เกมที่ควรเรียกความมั่นใจได้กลับทำไม่ได้
การที่ทีมฟอร์มแย่ในระยะหลัง มิเกล อาร์เตต้า ควรใช้นัดนี้เรียกความมั่นใจกลับคืนมาบ้างเพราะ แมนฯ ซิตี้ ไม่ได้จัดผู้เล่นเต็มสูบ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ใช้ชุดผสมที่มีดาวรุ่งและสำรองลงสนามเช่นกัน
ไม่มี เควิน เดอ บรอยน์ ส่วน “กุน” อเกวโร่, ราอีม สเตอร์ลิ่ง ก็เป็นเพียงสำรอง ผู้รักษาประตูก็ใช้มือสองเหมือน อาร์เซน่อล แต่ทีมของ อาร์เตต้า กลับแพ้ขาดลอยและแทบหมดลุ้นไปเลยตอนโดนนำ 2-1
จากที่ควรจะได้ความมั่นใจกลับมาบ้างกับการลงสนามนัดนี้ กลับกลายเป็นว่าเสียความมั่นใจไปมากกว่า
2) ดาวรุ่งควรได้โอกาสมากกว่านี้
ในรายการที่ผลการแข่งขันไม่ได้สำคัญเท่ารายการอื่น เข้ารอบก็ดี ตกรอบก็ไม่เสียหาย มิเกล อาร์เตต้า ควรให้โอกาสผู้เล่นที่ “ควร” ได้เล่นและจะเป็นอนาคตของทีมต่อไปไม่ว่าจะเป็น เอมิล สมิธ โรว์ และ โฟลาริน บาโลกุน ที่ต้องได้เล่นมากกว่านี้ ไม่ใช่เพียงสำรองท้ายเกม
คนที่เสียดายมากสุดคือ วิลเลี่ยม ซาลีบา เซนเตอร์หนุ่มชาวฝรั่งเศสที่จนป่านนี้ก็ยังไม่ได้เล่นให้ทีมแม้แต่นัดเดียว อาร์เตต้า ควรให้โอกาสในเกมแบบนี้ แต่ก็ดันเลือกใช้ ชโคดราน มุสตาฟี่ ที่นับวันรอหมดสัญญาและจะย้ายออกจากทีมอยู่แล้ว
อาร์เตต้า พูดบ่อยครั้งว่ามีแผนงานระยะยาว แถมเพิ่งให้สัมภาษณ์วางแผนในตลาดนักเตะ 2 รอบต่อไปเป็นที่เรียบร้อย แต่กลับทำสิ่งที่ตรงกันข้าม คือส่งนักเตะที่กำลังจะย้ายออกจากทีมลงเล่น แทนที่จะเป็นดาวรุ่งที่กำลังต้องการโอกาสเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์
3) อเล็กซ์ รูนาร์สสัน ทำผิดพลาดหลายครั้ง
นายทวารทีมชาติไอซ์แลนด์ ได้โอกาสลงตัวจริงในคาราบาว คัพ เป็นนัดแรกหลังเคยได้เล่นเฉพาะในยูโรปา ลีก ที่คุณภาพของคู่แข่งต่างจาก แมนฯ ซิตี้ หลายช่วงตัว
นัดนี้เขาเจอบททดสอบของจริง และออกอาการ “เหวอ” จนมีส่วนในหลายประตูที่เสียไปโดยเฉพาะประตู 2-1 ที่ปัดฟรีคิกของ ริยาด มาห์เรซ เข้าประตู เป็นการพลาดที่ทำเอาเสียความมั่นใจไปทั้งทีม
ส่วนประตูแรกก็น่าจะทำได้ดีกว่านี้ในการออกมาตัดบอลเปิดด้านข้าง ทว่าปล่อยให้ กาเบรียล เชซุส โฉบโหม่งตัดหน้า ขณะที่ กาเบรียล มากัลเญส และ ชโคดราน มุสตาฟี่ ก็ไม่ได้ช่วยป้องกันอีกแรง
แม้ว่าจะมีจังหวะเซฟสวยๆ ท้ายครึ่งแรก แต่จังหวะพลาดเข้าตาชัดเจนมากกว่า ช่วง 20 นาทีแรกเปิดบอลออกด้านข้างแบบเสียของถึง 2 ครั้ง
หากเทียบกับฤดูกาลก่อนที่มี เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ เป็นมือสอง รูนาร์สสัน ยังไม่ทำให้เห็นได้เลยว่าดีพอจะเป็นแบ็กอัปให้ แบรนด์ เลโน่ หากโชคร้ายบาดเจ็บขึ้นมาอีกคน
4) หลายคนที่ได้โอกาสแต่ผลงานน่าผิดหวัง
หลายคนที่ได้โอกาสลงตัวจริงนัดนี้ไม่สามารถฉกฉวยโอกาสของตัวเองได้ไม่ว่าจะเป็น โจ วิลล็อค, ชโคดราน มุสตาฟี่ และ เซอัด โคลาซินัช ที่ยังทำผลงานได้น่าผิดหวัง ยืนตำแหน่งมั่วซั่ว เหมือนเป็นคู่ซ้อมให้นักเตะเรือใบ
โจ วิลล็อค ยังอายุน้อย อยู่ในช่วงวัยเรียนรู้ แต่สำหรับ มุสตาฟี่ กับ โคลาซินัช อยู่ในกลุ่มที่กำลังจะย้ายออกจากทีมอยู่แล้ว อาร์เตต้า ควรดันดาวรุ่งดีกว่าเพื่อเก็บประสบการณ์ วิเคราะห์ บอล วัน นี้ สปอร์ต พลู
5) กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ เดี้ยงซ้ำ
กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ กองหน้าดาวรุ่งความหวัง ได้รับบาดเจ็บข้อเท้าหลังโดนผู้รักษาประตู แมนฯ ซิตี้ หวดเต็มๆ ในจังหวะออกมาตัดบอล จากที่เห็นตอนแรกดูหนักเอาเรื่อง แต่กัดฟันกลับมาเล่นจนจบครึ่งแรก
ครึ่งหลังถูกเข็นลงแต่เล่นได้เพียง 3 นาทีก็ไม่ไหว สร้างความหวาดหวั่นให้กับแฟนบอล อาร์เซน่อล อย่างมากเพราะเจ้าตัวเพิ่งกลับมาเล่นเป็นนัดที่ 2 หลังผ่าเข่าพักยาวไป 6 เดือน
ยังดีที่ มาร์ติเนลลี่ เปิดเผยเองหลังจากนั้นว่าไม่ได้เป็นอาการบาดเจ็บที่รุนแรงนัก และพร้อมกลับมาลงสนามอีกครั้งในเร็วๆ นี้
ถ้าเกิดโชคร้ายต้องพักยาวอีกจะเป็นการเสียหายทั้งขึ้นทั้งล่องเลยจากนัดนี้
เรื่อง/เรียบเรียง : แมนคูเนี่ยน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น