ปีศาจแดง โชว์ฟอร์มแรงอย่างต่อเนื่องล่าสุดจัดการไล่ต้อน “ยูงทอง” ลีดส์ ยูไนเต็ด 6-2 ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในศึก “สงครามกุหลาบ” เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้พวกเขาขยับขึ้นไปอยู่อันดับ 3 เรียบร้อยแล้ว
1) แมน ออฟ เดอะ แมตช์ แม็คโทมิเนย์
กองกลางวัย 24 ปีอาจจะทำผลงานได้ไม่ค่อยดีนักในช่วงต้นฤดูกาลนี้ แต่นักเตะค่อยๆ พัฒนาฝีเท้าอย่างต่อเนื่อง กอปรกับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา มีความเชื่อมั่นในฝีเท้าของแข้งลูกหม้อรายนี้ จึงให้โอกาสเขาได้ลงสนามบ่อยๆ และตอนนี้เจ้าตัวเริ่มงัดฟอร์มเด็ดๆมาต่อเนื่อง
จังหวะการจบสกอร์นอกกรอบเขตโทษที่ แม็คโทมิเนย์ กดเต็มข้อล่อเต็มแข้งแบบไม่จับ ตั้งแต่นาทีแรกทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นได้ง่ายยิ่งขึ้นแต่อีกไม่กี่นาทีถัดมา นักเตะแสดงให้เห็นถึงความฉลาดในการวิ่งทำทางเพื่อหาช่องว่างเข้าไปทำประตูในเขตโทษ
ขณะเดียวกันในการทำหน้าที่ตัดเกมคู่แข่งจากแดนกลาง แม็คโทมิเนย์ ก็ทำได้ดีเยี่ยมไม่มีที่ติ ซึ่งต้องบอกเลยว่า แมตช์นี้นักเตะเป็นตัวขับเคลื่อนเกมของ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างแท้จริง ต้องยอมรับว่า แม็คโทมิเนย์ ทำผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อประสานงานกับ เฟร็ด ซึ่งทั้งสองคนสามารถจัดการแดนกลางของ ลีดส์ ยูไนเต็ด จนอยู่หมัด และยังทำให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ได้มีอิสระในการเล่นเกมบุกอย่างเต็มที่
2) โซลชามีทีเด็ดซ่อนไว้
ในไลน์อัพ 11 ผู้เล่นตัวจริงของผีแดงทีแรก แน่นอนว่าแฟนบอลปีศาจแดงต่างรู้สึกงุนงงกับการเลือผู้เล่นบางคนลงสนามในเกมนี้
ตัวอย่าง แดเนี่ยล เจมส์ เป็นตัวจริงโดยจับ เมสัน กรีนวู้ด นั่งสำรอง หรือปอล ป็อกบา ที่ต้องนั่งดู เฟร็ด เล่นเคียงข้าง แม็คโทมิเนย์ และ แฟร์นันด์ส
ทว่า พอลงเล่นไปแล้วรู้สึกว่าทีมชุดนี้ทำผลงานได้อย่างสุดยอดอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้ง เฟร็ด และ แม็คโทมิเนย์ ประสานงานกันได้อย่างลงตัวสามารถครองเกมแดนกลางได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ถือเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ทำให้ “เร้ด เดวิลส์” คว้า 3 แต้มสำคัญในเกมนี้
3) เมสลิเย่ร์ ซุปเปอร์เซฟช่วยลีดส์นับไม่ถ้วน
เกมนี้ หากไม่ได้ อัลลัน เมสลิเย่ร์ นายด่านของลีดส์ แน่นอนว่า “ยูงทอง” อาจโดนไล่ต้อนสกอร์ขาดยิ่งกว่านี้
นายทวารอนาคตไกลชาวฝรั่งเศส โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม การเสีย 6 ประตูแล้วบอกว่าเล่นดีอาจจะไม่มีใครเชื่อ แต่สถิติสามารถยืนยันว่า เมสลิเยร์ เล่นได้อย่างเหนียวหนึบในเกมนี้ เพราะเขาช่วยปัดป้องไม่ให้บอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายมากกว่าครึ่งโหลเลยทีเดียว
จากสถิติแสดงให้เห็นว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโอกาสยิงเข้าเป้าถึง 14 ครั้ง ! โดยทัพ “ปีศาจแดง” ทำได้ 6 ประตูซึ่งนั่นหมายความว่า เมสลิเยร์ ช่วยป้องกันจังหวะสำคัญได้ถึง 8 ครั้ง ลองนึกภาพการเซฟได้ถึง 8 ครั้ง และเสีย 6 ประตูดูซิ เพราะหากไม่ได้โกลเลือดเฟร้นช์ สกอร์จะออกมาถล่มทลายมากขนาดไหน
4) บรูโน่ ยังคงสำคัญต่อแมนฯ ยูไนเต็ด
เกมนี้สตาร์ลูกหนังชาวโปรตุกีส ยังคงรักษามาตรฐานการเล่นที่คงเส้นคงวา และโดดเด่นมากๆ โดยนักเตะมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์เกมบุกได้อย่างเต็มที่ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการที่เขามี แม็คโทมิเนย์ กับ เฟร็ด คอยทำหน้าที่จัดการเรื่องเกมรับ ส่งผลให้เจ้าตัวมีอิสระในการเล่นมากยิ่งขึ้น ข่าวแมนยู
แฟร์นันด์ส เริ่มต้นเกมได้ดีเยี่ยม และเป็นคนส่งบอลให้ แม็คโทมิเนย์ ซัดไกลทำให้ทีมขึ้นนำตั้งแต่นาทีแรก จากนั้นเขาก็จัดการโชว์ความฉลาดหลักแหลมในการวิ่งหาพื้นที่ว่างก่อนจะซัดประตูแบบเด็ดขาด จากนั้นเจ้าตัวยังมากดประตูที่สองจากการยิงจุดโทษด้วย
สำหรับเกมนี้ แฟร์นันด์ส สร้างโอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีม 4 ครั้ง พร้อมทั้งยังช่วยเกมรับได้ดี และยังคอยวิ่งไล่บี้กดดันคู่แข่ง ดังนั้นต้องยอมรับว่านี่เป็นอีกหนึ่งแมตช์ที่ กองกลาวเลือดฝอยทอง โชว์ฟอร์มระดับเกรดเอพรีเมี่ยม ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟนบอลแมนฯ ยูฯ ต้องการ
5) ผีแดงมาแล้วว
ฟอร์มในลีกของพวกเขาสุดยอดมากๆ โดย 7 เกมหลังสุดสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็นแถมชนะ 6 แมตช์เลยทีเดียว ส่งผลให้ตอนนี้พวกเขาเก็บไปแล้ว 26 คะแนนจากการเล่น 13 แมตช์ กระโดดขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ของตารางตามหลัง ลิเวอร์พูล จ่าฝูง 5 คะแนน แต่แข่งน้อยกว่า 1 นัด
ด้วยฟอร์มแบบนี้ และเกมตกค้างก็คือการพบกับ เบิร์นลี่ย์ มีความเป็นไปได้สูงที่ “ผีแดง” จะเก็บสามคะแนนได้ และหากเป็นแบบนั้นพวกเขาจะขยับขึ้นไปอยู่ตำแหน่งรองจ่าฝูงพร้อมทั้งตามหลังทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ แค่สองแต้มเท่านั้น
ผลงานผสมกับโอกาสแบบนี้ แล้วจะไม่ให้คิดว่า แมนฯ ยูฯ มีลุ้นแชมป์ลีก ได้ยังไงกันล่ะ
เรื่อง/เรียบเรียง : แมนคูเนี่ยน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น