เอดิสัน คาวานี่ สวมบทซูเปอร์ซัพลงมากดสองประตูพร้อมเป็นประตูชัยพา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลิกนรกกลับมาเอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน สุดมัน 3-2 ที่สนามเซนต์ส แมรี่ส์ ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คว้าชัยสามนัดรวดขยับขึ้นไปรั้งที่ 7 ของตาราง
1) ปีศาจแดงขาดบรูโน่ไม่ได้เลยจริงๆ
บรูโน่ แฟร์นันด์ส คือตัวสำคัญ จุดศูนย์กลางของยูไนเต็ดชุดนี้อย่างไม่ต้องสงสัย เขาเป็นทุกอย่างของ “ปีศาจแดง” ไม่ว่าจะเป็นการยิงประตู, จ่ายบอล, รับหน้าที่เล่นลูกฟรีคิก และยังคอยกระตุ้นทีม ทั้งหมดนี้อยู่ในตัวของดาวเตะเลือดฝอยทอง
เกมนี้แม้ว่าเจ้าตัวจะพลาดโอกาสทองตีเสมอให้ทีมในช่วงครึ่งแรกเมื่อซ้ำลูกยิงของ เมสัน กรีนวู้ด แต่โดน อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ ป้องกันได้อย่างหวุดหวิด อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งหลัง จอมทัพทีมชาติโปรตุเกส ผลิตฟอร์มเทพประทานให้โลกได้เห็นอีกครั้งเมื่อเจ้าตัวจัดการซัดประตูตีไข่แตกให้ทีมจากการแอสซิสต์ของ เอดินสัน คาวานี่ จากนั้นเขาก็มีส่วนที่ทำให้ คาวานี่ ซัดประตูตีเสมอได้อย่างสุดยอด
ผลงานในช่วง 5 เกมพรีเมียร์ลีกหลังสุดของ แฟร์นันด์ส กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เขาทำ 4 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ ต้องบอกว่าสุดยอดมาก
2) โซลชา แก้เกมได้ไว
จากชัยชนะยอดเยี่ยมในนัดล่าสุด นอกจากสปิริตนักสู้ของเหล่านักเตะที่สู้ไม่ถอยแล้ว สิ่งหนึ่งต้องยกให้เครดิตคือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เขามีความคิดฉับไวในการแก้ไขสถานการณ์ที่ทีมกำลังตกเป็นรองนักบุญ
ในช่วงพักครึ่งเมื่อสกอร์เป็นรองถึง 2 ประตู สิ่งที่จำเป็นก็คือการปรับหมาก และ กรีนวู้ด คือผู้เล่นที่จำเป็นต้องเปลี่ยนออกไป เพื่อเปิดทางให้ คาวานี่ ได้ลงมากอบกู้ในสถานการณ์ที่ทีมจำเป็นต้องได้ประตูให้เร็วที่สุดหากอยากมีแต้มติดไม้ติดมือกับบ้าน
การส่ง คาวานี่ ลงสนามถือว่าเป็นการปรับหมากที่ยอดเยี่ยมสำหรับ โซลชา เพราะหัวหอกชาวอุรุกวัยมีส่วนต่อเกมรุกของทีมตลอดช่วงครึ่งหลัง และทำให้แนวรับเจ้าบ้านต้องปั่นป่วน ที่สำคัญนักเตะยังใช้ประสบการณ์ในการวิ่งหาพื้นที่ว่างเพื่อทำประตู และก็สมฤทธิ์ผล
3) แดนกลางเริ่มลงตัวมากขึ้น
โซลชา ตัดสินใจจับ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ลงเล่นตัวจริงในเกมลีกนัดแรก และเจ้าตัวก็ไม่ทำให้เจ้านายผิดหวังเมื่อสามารถเล่นประสานงานกับเพื่อนร่วมแดนกลางทั้ง เฟร็ด และ เนมานย่า มาติช ได้อย่างลงตัว ที่สำคัญยังคอยทำหน้าที่สอดประสานกับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ได้ดีเยี่ยม
การครองบอลที่เหนียวแน่น การวิ่งหาพื้นที่ได้ดี ทำให้ดาวเตะเลือดดัตช์มีส่วนกับเกมรุกของทีม ในขณะที่ เฟร็ด คอยเป็นกองหนุนให้กับ ฟาน เดอ เบ็ค ในการเล่นเกมรุก แต่อาจจะมีถูกตำหนิอยู่บ้างจากการทำฟาวล์จนส่งผลให้ทีมเสียฟรีคิก และนำไปสู่การเสียประตูที่สอง
ส่วน มาติช ต้องบอกว่าแก่เก๋าประสบการณ์ คอยทำหน้าที่เป็นตัวเก็บกวาดหน้าแผงแบ็กโฟร์ได้ดีเยี่ยม คุมจังหวะการเล่นในแดนกลางได้ดี แถมบางจังหวะยังโชว์ลีลากระชากบอลขึ้นไปแดนหน้าได้ดี ถือเป็นผู้เล่นทรงคุณค่าของทีมจริงๆ ข่าวแมนยู
4) “แมน ออฟ เดอะ แมตช์” คาวานี่
คาวานี่ แสดงให้เห็นถึงความเป็นยอดนักเตะ เมื่อลงสนามในช่วงต้นครึ่งหลัง ซึ่งสถานการณ์ในเวลานั้น แมนฯ ยูฯ ตกเป็นรอง “นักบุญ” 0-2 และเจ้าตัวแสดงให้เห็นถึงคำว่า “คลาส” ฟุตบอลที่สุดยอดแม้อายุจะปาเข้าไป 33 ปีแล้วก็ตาม
เพียงแค่ 14 นาทีในครึ่งหลัง คาวานี่ ก็ส่งบอลให้ แฟร์นันด์ส ซัดตีไข่แตก จากนั้นประตูตีเสมอ 2-2 ดาวยิงชาวอุรุกวัย แสดงให้เห็นถึงสัญชาตญาณการเป็นหน้าเป้าขนานแท้ในจังหวะที่ แฟร์นันด์ส ซัดไกลซึ่งจังหวะนั้นบอลแฉลบแข้งเจ้าถิ่นมาเข้าทาง โดย คาวานี่ เป็นคนเดียวที่อ่านเกมและวิ่งเข้าหาบอล ส่วนเพื่อนร่วมทีมและคู่แข่งมัวแต่ยืนมองบอลกันทั้งนั้น
สำหรับประตูชัยต้องบอกเลยว่ามาจากประสบการณ์และความเฉลียวฉลาดในการวิ่งหาพื้นที่ว่างของ คาวานี่ อย่างแท้จริง ที่สำคัญการโหม่งบอลที่อยู่ในระดับเอว ต้องเป็นหน้าเป้าแท้ๆ ถึงจะมีสัญชาตญาญแบบนี้ได้ ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะได้สวมเสื้อหมายเลข 7 ของทีม
5) ทำสถิติชนะเกมเยือน 8 นัดในลีกติดต่อกัน
ปีศาจแดงในยุค โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ทำสถิติที่น่าเหลือเชื่อเมื่อพวกเขาบุกไปชนะเจ้าบ้านในเกมพรีเมียร์ลีก 8 นัดติดต่อกัน (รวมช่วงท้ายซีซั่นที่ผ่านมาด้วย) ซึ่งถือว่ายอดเยี่ยมสุดๆ เมื่อเทียบกับผลงานในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ฤดูกาลนี้
การบุกไปคว้า 3 คะแนนถึงถิ่นเซนต์ส แมรี่ส์ ได้สร้างสถิติใหม่ให้กับสโมสรเมื่อพวกเขาเก็บชัยชนะติดต่อกัน 8 นัดรวดในเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดี ซึ่งสวนทางกับผลงานในเกมโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อย่างชัดเจน
ฉะนั้นโซลชา ต้องปรับฟอร์มการเล่นในบ้านให้ดีขึ้นและดุดันเหมือนการเล่นเกมเยือนให้ได้ หากจะหวังถึงการลุ้นแชมป์ และแย่งพื้นที่ยูฟ่า แชม เปี้ยนส์ ลีก แล้วทำไมโอกาสในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก
เรื่อง/เรียบเรียง : แมนคูเนี่ยน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น