ย้อนรอยเกม UCL 2011 : เรอัล มาดริด 0-2 บาร์เซโลน่า


ลิโอเนล เมสซี่ โชว์ฟอร์มสุดฮอต กระทุ้งคนเดียว2ประตู ช่วยให้ บาร์เซโลน่า บุกมาเอาชนะ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ได้ถึงถิ่น ซาติอาโก้ เบร์นาเบว 2-0 กุมความได้เปรียบอย่างมาก โดยนัดที่สองจะกลับไปเล่นที่คัมป์นู ถิ่นของบาร์เซโลน่า


ศึก “เอล กลาซิโก้” นัด 4 ของฤดูกาลและเป็นนัดที่ 3 ในรอบ 18 วัน คราวนี้เป็นในเวอร์ชั่น แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก เรอัล มาดริด เปิดรังซานติอาโก เบร์นาเบว รับมือ บาร์เซโลน่า


โชเซ่ มูรินโญ่ ปรับทัพจากเกมลีกนัดล่าสุดที่บุกไปถล่ม บาเลนเซีย 6-3 เกือบยกชุด เหลือแค่ อีเกร์ กาซียาส, ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า และ ราอูล อัลบิโอล แค่สามคน โดย อัลบิโอล ลงมายืนเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ เซร์คิโอ รามอส แทนที่ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ที่ติดโทษแบน  พร้อมกับปรับมาใช้ระบบ 4-3-3 ส่ง เปเป้ ลงมายืนกลางรับ และใช้ เมซุต โอซิล, อังเคล ดิ มาเรีย และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นสามประสานแนวรุก


ด้านทีมเยือน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้ การ์เลส ปูโยล กัปตันทีม ฟิตกลับมาประจำการแบ็กซ้าย และให้ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ลงมายืนจับคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟกับ เคราร์ด ปิเก้ แดนกลางใช้ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ เป็นตัวตัดเกม และให้ เซย์ดู เกอิต้า ลงทำเกมคู่กับ ชาบี เอร์นานเดซ สามประสานแดนหน้าเป็น  เปโดร โรดริเกซ, ลิโอเนล เมสซี่ และ ดาบิด บีย่า


เริ่มเกมในช่วงต้น ได้โอกาสทักทายฝั่งละครั้ง โดยทีมเยือนได้ลุ้นก่อน นาทีที่ 4 ชาบี เอร์นานเดซ ได้ยิงไกลหน้าเขตโทษบอลไปตรงตัว อิเกร์ กาซิยาส แล้วเปิดเกมเร็วทันที บอลไปถึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สบโอกาสพลิกยิงด้วยซ้าย ทางด้าน บิคตอร์ บัลเดส ก็รับได้ไม่พลาด


นาทีที่ 10 บีย่า เลี้ยงบอลหนีแนวรับ “ราชันชุดขาว” มาสามคนตัดเข้าในก่อนปั่นด้วยซ้ายบอลหลุดข้ามคานเสาไกลไปไม่ไกล


รูปเกมเป็นทีมเยือนครองบอลเหนือกว่าชัดเจน แต่ยังคงไม่มีโอกาสจังๆเท่าใดนัก กระทั่วโอกาสต่อมาน่าได้สุดขีด เมสซี่ ลากบอลมาไหลทะลุช่องให้ ชาบี สอดขึ้นมาตวัดยิงเรียดไปติดเซฟ กาซียาส ล้มตัวปัดบอลกระฉอกออกมา ทว่า รามอส สุดนิ่งโหม่งบอลจังหวะสองคืนหลังให้ กาซียาส ตามมารับเข้าซอง

ภาพนี้ไม่ได้ระบุแอตทริบิวต์ alt, ชื่อไฟล์ของไฟล์นี้คือ Real+Madrid+v+Barcelona+UEFA+Champions+League+1r1YtRQVY9Cx.jpg


นาที 34 ราชันชุดขาว มาได้โอกาสลุ้นบ้าง ชาบี อลอนโซ่ วางบอลยาวจากริมเส้นเข้ามาให้ เปเป้ สอดเข้ามาเทกโขกได้สูงกว่า บุสเก็ตส์ แต่บอลไปตรงตัว บิคตอร์ บัลเดส รับสบาย


ช่วงท้ายครึ่งแรก ราชันชุดขาว มาชวดโอกาสออกนำอย่างน่าเสียดายสุดขีด โรนัลโด้ ลากบอลตัดเข้าในมาสับไกในเต็มข้อบอลพุ่งเข้ากรอบเป็นจรวด ทำให้ บัลเดส รับกระฉอกออกมาเข้าทาง เมซุต โอซิล ตามซ้ำดาบสองจ่อๆแต่กลับไปยิงติดเซฟ บัลเดส อีกครั้งอย่างไม่น่าเชื่อ อาซูลกราน่า รอดตายหวุดหวิด และจบ 45 นาทีแรกสกอร์บอร์ดของทั้งสองทีมยังไม่ทำงานเสมอกันอยู่ 0-0 แต่สถิตการครองบอลของ บาร์ซ่า มากถึง 77 เปอร์เซ็นต์


เริ่มเกมครึ่งหลัง เจ้าบ้านน่าจะได้ก่อน โรนัลโด้ ควบตามไปเอาบอลริมเส้นด้านหลัง แต่กลับไม่เลือกจ่ายเข้าในและยิงยัดเข้าไปติดบล็อก ปิเก้ หลุดออกหลังไป


นาที 53 ราชันชุดขาว ต้องมารับข่าวร้าย เมื่อ รามอส ไปสไลด์ตัดฟาลว์ใส่ เมสซี่ ในจังหวะกำลังจะลากบอลติดเครื่องหนีไป ทำให้ โวล์ฟกัง สตาร์ค วิ่งวมาแจกใบเหลืองให้ทีนที ส่งผลให้ รามอส จะติดโทษแบนเกมวันอังคารหน้าที่คัมป์ นูด้วย


เกมดุเดือดขึ้นตามลำดับ นาที เจ้าบ้านต้องมาเหลือนักเตะ 10 คนในสนาม เปเป้ วิ่งมากระโดดเตะบวกยันคาบลูกคาบดอกใส่ ดาเนียล อัลเวส อย่างน่าเกลียด ทำให้ โวล์ฟกัง สตาร์ค ไม่ลังเลชูใบแดงไล่ เปเป้ ออกไปทันที วิเคราะห์ บอล วัน นี้ สปอร์ต พลู


และจากจังหวะนี้นอกสนามทาง มูรินโญ่ ไม่พอใจคำตัดสินออกมาโวยอย่างหนัก จนทำให้ถูกใบแดงไล่ออกจากสนามไปนั่งสั่งเกมบนอัฒจันทร์แทน


เกมเป็นของ อาซูลกราน่า ทันทีนาที 68 ชาบี เลี้ยงบอลมาไหลออกทางซ้ายให้ บีย่า โยกหนี อัลบาโร่ อาร์เบลัว ก่อนปั่นบอลเน้นๆไปติดเซฟ กาซียาส ที่สุดยอดเหนือคำบรรยายบินไปปัดบอลพ้นอันตรายไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ


เกมเป็นของ บาร์ซ่า รุกใส่เต็มสูบแล้ว กระทั่งนาที 76 ก็มาพังสกอร์ออกนำ 1-0 สำเร็จ อบราฮิม อเฟลลาย ปีกทีมชาติฮอลแลนด์ ที่ลงมาเป็นสำรอง เปิดบอลจากริมเส้นด้านขวาเข้ามาให้ เมสซี่ โฉบเข้าชาร์จบอลผ่านมือ กาซีนาส เสียบตาข่าย


เท่านั้นยังไม่พอ บาร์ซ่า มาได้เพิ่มอีกประตู ลิโอเนล เมสซี่ โชว์ฟอร์มเทพ โซโล่เดี่ยวฝ่ากองหลังเรอัล มาดริด 4คน ก่อนจะซัดด้วยขวาผ่านมือกาซียาสเข้าไป บาร์เซโลน่านำ 2-0


ช่วงเวลาที่เหลือเกมยังคงเป็น บาร์ซ่า บุกเข้าใส่มากกว่า แต่ยิงเพิ่มไม่ได้ จบเกม เรอัล มาดริด เแพ้คารังต่อ บาร์เซโลน่า 0-2 ก่อนจะไปเตะตัดสินหาทีมเข้าไปชิงชนะเลิศที่สนามเวมบลีย์ ในนัดสอง ณ รังคัมป์ นู วันอังคารหน้า




รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เรอัล มาดริด (4-3-3) : อีเกร์ กาซียาส, อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เซร์คิโอ รามอส, ราอูล อัลบิโอล, มาร์เซโล่, ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า, ชาบี อลอนโซ่, เปเป้, เมซุต โอซิล, อังเคล ดิ มาเรีย, คริสเตียโน่ โรนัลโด้

สำรอง : อันโตนิโอ อาดาน, เอเซเกล การาย, เอสเตบัน กราเนโร่, ริคาร์โด้ กาก้า, กอนซาโล่ อิกวาอิน, คาริม เบนเซม่า, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์



บาร์เซโลน่า (4-3-3) : บิคตอร์ บัลเดส, ดาเนียล อัลเวส, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, เคคาร์ด ปิเก้, กาเลส ปูโยล, ชาบี เอร์นานเดซ, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, เซย์ดู เกอิต้า, เปโดร โรดริเกซ, ดาบิด บีย่า, ลิโอเนล เมสซี่


สำรอง : โฆเซ่ มานูเอล ปินโต้, กาเบรียล มิลิโต้, เซร์คิโอ โรเบร์โต้, อันเดรว ฟอนตาส, ติอาโก้ อัลกันตาร่า, อิบราฮิม อเฟลลาย, เจรฟเฟรน ซัวเรซ











เรื่อง/เรียบเรียง : แมนคูเนี่ยน
















ความคิดเห็น