“หงส์แดง” หืดจับไม่น้อยเมื่อออกสตาร์ทตามหลัง เชฟฯยูไนเต็ด ไปก่อน หลัง ฟาบินโญ่ ไปทำเสียจุดโทษ ก่อนที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ จะซัดไล่ตีเสมอ และครึ่งหลังมาได้ ดีโอโก้ โชต้า โขกประตูชัยพา ลิเวอร์พูล แซงเอาชนะ เชฟฯยูไนเต็ด 2-1 เก็บสามแต้มสำคัญมีเพิ่มเป็น 13 คะแนนเท่าจ่าฝูง เอฟเวอร์ตัน ที่แข่งน้อยกว่า
1) คล็อปป์ปรับแผนใหม่ 4-2-3-1
เจอร์เก้น คล็อปป์ จัดทัพ หงส์แดง ต้อนรับการมาเยือนของ เชฟฟิลด์ ด้วยรูปแบบการเล่น 4-2-3-1 ให้ ดิโอโก้ โชต้า ประจำการบริเวณกราบขวา ขณะที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ รับบทกองหน้าตัวเป้า ส่วน โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน เคลื่อนที่อิสระ และ ซาดิโอ มาเน่ ปักหลักริมเส้นฝั่งซ้ายพร้อมกับการหุบเข้าใน
แม้รูปแบบดังกล่าวจะตะกุกตะกักอยู่บ้างในช่วงแรกจากแนวรับที่แพ็คเกมอย่างหนาแน่นของทีมเยือนแต่เมื่อพวกเขาเร่งจังหวะในครึ่งหลังก็ทำให้เห็นสัญญาณที่ดีโดยเฉพาะกับ ดิโอโก้ โชต้า ที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการช่วยไล่บีบพื้นที่และคอยเคลื่อนที่หาพื้นที่ว่างตลอดระยะเวลาที่อยู่ในสนาม
นอกจากนี้ การยืนตำแหน่งในเกมรับของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ จินี่ไวนัลดุม ยังสามารถประคอง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ยามที่ฟูลแบ็คทั้ง 2 รายเติมเกมขึ้นสูง และในขณะเดียวกัน การที่ ซาลาห์ ปักหลักเป็นศูนย์หน้าตัวเป้ายังทำให้เขาไม่ต้องรับภาระไล่บอลเกมรับมากเท่ากับรูปแบบ 4-3-3 ที่เจ้าตัวยืนเป็นตัวรุกริมเส้นฝั่งซ้ายอีกด้วย
2) หงส์แดงยังมีปัญหาการรับมือลูกกลางอากาศ
แม้การจับคู่ระหว่าง ฟาบินโญ่ กับ โจ โกเมซ จะทำให้ หงส์แดง เก็บชัยชนะตั้งแต่เกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อกลางสัปดาห์กับ อาแจ็กซ์ แต่แล้วทั้งคู่ก็ต้องเจอกับงานที่หนักหน่วงเมื่อคู่แข่งเป็นทีมใน อังกฤษ ด้วยกันอย่าง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
พลพรรค “ดาบคู่” เหมือนจะรู้ถึงจุดอ่อนในแนวรับของ หงส์แดง เมื่อไร้ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เป็นอย่างดี พวกเขาเดินหน้าโจมตีด้วยการวางบอลยาวให้กับแดนหน้า เหมือนอย่างเอฟเวอร์ตันทำให้เห็นมาแล้ว โดยการวางบอลให้ โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี คอยโหม่งชง เข้าตั๊นในจังหวะแรก
ความแข็งแกร่งของทั้ง ฟาบินโญ่ และ โจ โกเมซ ถูก แม็คเบอร์นี ดับเครื่องชนอย่างต่อเนื่องโดยหัวหอกของ เชฟฟิลด์ รายนี้จบเกมด้วยการมีสถิติเอาชนะในลูกกลางอากาศมากที่สุดในสนาม (13 ครั้ง) ทีเด็ดบอล
3) ปัญหา VAR (อีกแล้ว)
เป็นอีกเกมที่ VAR กลายเป็นประเด็นให้พูดถึงเมื่อ หงส์แดง ต้องเสียลูกจุดโทษจากการพิจารณาโดย VAR
จังหวะปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ ฟาบินโญ่ ตามเสียบสกัด แม็คเบอร์นี ล้มลงบริเวณกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสิน ไมค์ ดีน เป่าฟาวล์ทันทีพร้อมกับชี้ให้เป็นลูกฟรีคิก ก่อนที่ VAR จะให้เป็นลูกจุดโทษเมื่อเท้าของหัวหอก เชฟฟิลด์ ข้างหนึ่งยืนเหยียบอยู่บนเส้นกรอบเขตโทษพอดิบพอดี
แม้จะดูตะขิดตะขวงใจอยู่บ้างแต่การฟาวล์บนเส้นกรอบเขตโทษนั้นนับว่าเป็นการทำฟาวล์ในเขตโทษตามการรายงานจาก ดิแอธเลติก ซึ่งนั่นหมายความว่าลูกเข้าสกัดของ ฟาบินโญ่ เป็นจุดโทษอย่างชัดเจนตามตำรา
เรื่อง/เรียบเรียง : แมนคูเนี่ยน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น