ผีหลอนบุกย้ำแค้นปารีสอีกครั้ง


“ผีแดง” งัดฟอร์มเฉียบหลังบุกไปเอาชนะเจ้าถิ่น ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ได้อีกครั้ง 2-1 เกมนี้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ยิงจุดโทษขึ้นนำทว่า อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล มาโขกเข้าประตูตัวเอง ก่อนที่ช่วงท้ายเกม มาร์คัส แรชฟอร์ด จะเป็นฮีโร่ยิงประตูชัยให้ แมนฯยูไนเต็ด บุกมาคว้าสามแต้ม ประเดิมนัดแรก ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา



1)  วาน-บิสซาก้า, ตวนเซเบ้ เล่นได้อย่างแข็งแกร่งพร้อมท้าชน


เกมนี้ อารอน วาน-บิสซาก้า เป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญที่ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด บุกชนะ “เปแอสเช” โดยเขาสามารถจัดการหยุดความเก่งฉกาจ และรับมือทักษะชั้นยอดของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ กับ เนย์มาร์ ได้อย่างยอดเยี่ยมทุกครั้งที่ทั้งสองคนนี้บุกเข้ามาอยู่ในพื้นที่การดูแลของเขา และโชว์การเสียบสกัดที่แม่นยำ รวมทั้งการปะทะ เอ็มบัปเป้ ส่งผลให้เขาพลาดโอกาสที่จะยิงประตู


สถิติหลังเกมของ วาน-บิสซาก้า บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเขาสำคัญมากๆ เมื่อสกัดได้ 6 ครั้ง, ตัดบอลจากคู่แข่งได้ 2 ครั้ง และหยุดความร้อนแรงของ เนย์มาร์, เอ็มบัปเป้ ได้อยู่หมัด ฉะนั้นนี่เป็นอีกบทพิสูจน์ที่แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาเป็นหนึ่งในแบ็กขวาที่ดีที่สุดของทีมในเวลานี้


ขณะที่ อั๊กเซล ตวนเซเบ้  ที่ลงเล่นเกมแรกให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2020 หลังจากร้างสนามไปเป็นปี และทำผลงานได้ดีมากๆ โดยเขาทำหน้าที่เป็นปราการหลังได้อย่างดีไม่มีที่ติ โดยเฉพาะการจัดการกับ เนย์มาร์ และ เอ็มบัปเป้ ที่สำคัญยังมีชอตเด็ดในจังหวะดวลตัวต่อตัวกับ สตาร์ดังทีมชาติฝรั่งเศส และสามารถจัดการนักเตะได้อยู่หมัด



2) เฟร็ด-แม็คโทมิเนย์ คู่หูลงตัวในแดนกลาง


เกมนี้นายใหญ่ชาว นอร์เวย์ เลือกส่ง เฟร็ด ลงจับคู่กับ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่แดนกลางเป็นปราการด่านแรกคอยหยุดเกมรุกของ เปแอสเช โดยมี บรูโน แฟร์นันด์ส รับบทบาทจอมทัพปั้นเกมรุกอยู่หลัง มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อองโตนี มาร์กซิยาล ขณะที่ เนมานยา มาติช นั่งสแตนด์บายอยู่บนม้านั่งสำรอง


เป็นอีกครั้งที่การประสานงานระหว่าง เฟร็ด กับ แม็คโทมิเนย์ ทำได้อย่างลงตัวโดยเฉพาะเมื่อทีมตกเป็นฝ่ายตั้งรับ มิดฟิลด์ทีมชาติ สกอตแลนด์ วัย 23 ปีรับบทบาทผึ้งงานไล่บี้คอยตัดเกมที่แดนกลางอันเป็นงานถนัดของเจ้าตัว ขณะที่คู่หูชาว บราซิล โดดเด่นกับการเปลี่ยนจังหวะจากรับเป็นรุกอย่างรวดเร็ว



3)  อเล็กซ์ เตลเลส ว่าที่แบ็กซ้ายตัวจริง


อเล็กซ์ เตลลิส แสดงให้เห็นถึงผลงานไม่ธรรมดาในเกมเปิดตัวของเขา โดยเขาโชว์ความเป็นนักเตะชั้นยอดในการเล่นเกมรุก ขณะเดียวกันยังรับหน้าที่จัดการเล่นลูกตั้งเตะซึ่งเจ้าตัวเปิดบอลได้ดียิ่งกว่าผู้เล่นเท้าซ้ายคนอื่นๆ ของ “ผีแดง” ในเวลานี้


โดยเฉพาะจังหวะการเล่นลูกเตะมุม เตลลิส โชว์ให้เห็นถึงการเตะมุมที่อันตรายมากๆ และทุกครั้งที่ได้เตะมุมทางฝั่งขวาเขาจะรับหน้าที่เปิดเองซึ่งบอลที่เปิดเลี้ยวเข้าหาประตู และเกือบที่จะช่วยให้ “ปีศาจแดง” ได้ประตูที่สองในช่วงครึ่งแรกด้วย ขณะที่การเปิดบอลจากฝั่งซ้ายก็โดดเด่นไม่แพ้กัน


เตลเลส จบเกมด้วยสถิติการครอสบอลมากที่สุดในสนาม 8 ครั้ง เข้าเป้า 3 ครั้งเป็น 3 คีย์พาส โดยยังนับเป็นแข้งที่สามารถผ่านบอลให้เพื่อนสับไกมากครั้งที่สุดในเกมนี้อีกด้วยแม้เจ้าตัวจะใช้เวลาอยู่ในสนามเพียง 67 นาทีเท่านั้น



4) เดเคอา องค์ลง



เด เคอา ยังคงแสดงให้เห็นแล้วว่าระดับฟอร์มการเล่นของเขายังคงสุดยอดเหมือนเดิม แม้ช่วงที่ผ่านมาจะฟอร์มตกบ้างก็ตาม แต่ในเกมล่าสุดที่ปะทะกับ “เปแอสเช” เจ้าตัวโชว์ความเหนียวหนึบ และต้องบอกเลยว่าเขาคือหนึ่งในนักเตะสำคัญที่นำชัยชนะมาสู่ทัพ “ผีแดง” แมตช์นี้ ราคาบอล


นายด่านทีมชาติสเปน มีจังหวะเซฟสำคัญๆ หลายครั้งเริ่มตั้งแต่การปฏิเสธจังหวะยิงประตูของ อังเคล ดิ มาเรีย ในนาทีที่ 11 จากนั้นก็โชว์ความเหนียวหนึบจากการยิงของ เลย์วิน คูร์ซาว่า ในนาทีถัดมา ยังไม่หมดแค่นั้นเพราะในครึ่งหลังเขายังเซฟจังหวะยิงอย่างเหนือชั้นของ เอ็มบัปเป้ ในนาทีที่ 47  จากนั้นก็หยุดการยิงของ เนย์มาร์ ในนาทีที่ 82


แน่นอนว่าฟอร์มการเซฟประตูของ เด เคอา ช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด รอดพ้นจากหายนะในแมตช์นี้ แถมยังนำไปสู่การได้ชัยชนะด้วย



5) ได้สามแต้มเปิดตัวสวยงาม


แมนฯ ยูไนเต็ด ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในแมตช์นี้ โดยส่วนหนึ่งต้องยกเครดิตให้กับ โซลชา ในการวางแผนมาเป็นอย่างดีด้วยการใช้ระบบ 3-5-2 เนื่องจากทีมขาด แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ทำให้จำเป็นต้องใช้ระบบนี้ และถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยม


วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, ตวนเซเบ้ และ ลุค ชอว์ ทำหน้าที่เป็นสามแนวรับที่สมบูรณ์แบบ โดยพวกเขาสามารถจัดการเกมบุกที่แสนดุดันของ แซงต์-แชร์กแมง ได้เป็นอย่างดี ขณะที่ในแผงกองกลาง โซลชา เลือกดร็อป ปอล ป็อกบา กับ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค และส่ง เฟร็ด ยืนคู่กับ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ซึ่งทั้งคู่ทำหน้าที่ได้อย่างเข้าขารู้ใจ ที่สำคัญพวกเขายังช่วยให้ทีมเล่นเกมสวนกลับได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


ส่วน มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็ยังคงเป็นหัวหอกตัวความหวัง ความเร็ว และการยิงที่เฉียบคมของเขาช่วยให้ทีมได้ 3 คะแนนสำคัญในแมตช์นี้


ฉะนั้นการออกมาเยือนถิ่นปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ พร้อมกับคว้าชัยชนะกลับเมืองแมนเชสเตอร์ ถือเป็นฤกษ์งามยามดีสำหรับทีม และยังเป็นกำลังใจให้กับบรรดาแข้ง “ปีศาจแดง” สำหรับแมตช์ที่พวกเขาจะต้องปะทะกับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี เกมลีกสัปดาห์นี้









-แมนคูเนี่ยน-

















ความคิดเห็น