เลสเตอร์ ซิตี้ แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาเป็นทีมที่มีเกมรุก และสวนกลับดุดัน หลังจากบุกไปสยบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 5-2 ถึงสนามเอติฮัด สเตเดี้ยม ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา ส่งผลให้ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงลีกเรียบร้อยแล้ว
1) 3 จุดโทษเลสเตอร์ทำให้เกมพลิก
เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ชื่อว่าเป็นทีมที่ได้จุดโทษเยอะในลีก ฉะนั้น “เรือใบสีฟ้า” จึงต้องเล่นให้รัดกุมหากพวกเขาไม่อยากต้องเผชิญกับสถานการณ์กดดันจนเป็นเหตุให้ทีมต้องเสียเปรียบ
แต่แล้วทั้ง เอริก การ์เซีย, ไคล์ วอล์คเกอร์ และ แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ ต่างผิดพลาดหมดอย่างไม่น่าเชื่อ จนเป็นเหตุให้ แมนฯ ซิตี้ ต้องเสีย 3 จุดโทษในแมตช์นี้ ซึ่งทำให้พวกเขากลายเป็นทีมแรกในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่เสียประตูจากจุดโทษมากที่สุดในรอบ 7 ปี และแน่นอนว่าต้องยกเครดิตให้เลสเตอร์ที่มีการเล่นสวนกลับที่เฉียบคม และสามารถกดดันเกมรับของ แมนฯ ซิตี้ จนปั่นป่วน
2) เมนดี้-วอล์คเกอร์ ฟูลแบ็กฟอร์มหลุด
ผลงานของ ไคล์ วอล์คเกอร์ และ แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ ย่ำแย่สุดๆ ในการปะทะกับ เลสเตอร์ ซิตี้ โดยพวกเขานอกจากจะทำเสียจุดโทษคนละครั้งและ ยังเล่นเกมบุกจนหลุดตำแหน่ง และทำให้ “สุนัขจิ้งจอก” มีโอกาสเล่นสวนกลับหลายต่อหลายครั้ง
เมนดี้ มักจะดันเกมขึ้นสูง โดยเฉพาะตอนที่ทีมกำลังตกเป็นรอง และพยายามที่จะช่วยต้นสังกัดในการยิงประตูคืน เช่นเดียวกับ วอล์คเกอร์ ที่มักจะดันเกมหวังจะช่วยสร้างสรรค์เกมรุกให้กับทีม ทั้งคู่มักชอบดันขึ้นสูงทำให้เวลาที่ เลสเตอร์ ตัดบอลได้
และเล่นสวนกลับจะมีพื้นที่โล่งในตำแหน่งฟูลแบ็ก โดยเหลือแค่ เอริก การ์เซีย กับ นาธาน อาเก้ ที่อยู่คุมแนวรับกันแค่สองคนเท่านั้น ทำให้ไม่สามารถกลับมาช่วยกองหลังได้ทัน จึงทำให้บางครั้งต้องตัดฟาวล์ แต่บางครั้งก็ทำฟาวล์ผิดจังหวะจนเป็นเหตุให้เสียจุดโทษอย่างในเกมนี้
3) เรือใบสีฟ้า ขาดตัวหลักหลายคน
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องเจอกับปัญหาตั้งแต่เริ่มฤดูกาลเมื่อมีขุมกำลังในการเลือกใช้งานจำกัดเนื่องจากผู้เล่นตัวหลักเจอปัญหาบาดเจ็บรบกวนทั้ง แบร์นาร์โด้ ซิลวา, กาเบรียล เชซุส, อิลคาย กุนโดกัน, ชูเอา คันเซโล่ และ เซร์คิโอ อเกวโร่
เป๊ป ไม่มีทางเลือกทำให้เราจำเป็นต้องจับ ราฮีม สเตอร์ลิง ขึ้นไปเล่นเป็นกองหน้า ซึ่งแน่นอนว่า ปีกชาวอังกฤษ ไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้เลย ขณะที่ โรดรี เอร์นานเดซ กับ แฟร์นันดินโญ่ ก็ประสานงานกันไม่ดีเลยในแผงกองกลาง โดยทั้งคู่ไม่สามารถต้านทานเกมสวนกลับเร็วได้เลย
หลังจากนี้เขาต้องหาทางแก้ไขโดยด่วนคือการหาแนวทางแก้ปัญหาเวลาที่พบกับทีมที่เน้นตั้งรับลึก เพราะหากพวกเขาต้องเจอกับคู่แข่งที่เล่นในสไตล์แบบนี้ โอกาสที่จะโดนสวนกลับและเสียประตู หรือจุดโทษเหมือนในเกมกับ เลสเตอร์ ซิตี้ คงมีค่อนข้างสูง
4) เตรียมเสริมกองหลังเพิ่มอีก
ซิตี้ ดูจะมีปัญหาเรื่องเกมรับพอสมควร ซึ่งเป็นปัญหามาตั้งแต่ซีซั่นที่แล้วที่พวกเขามักพลาดท่าเสียแต้มง่ายๆ อย่างเช่น วูล์ฟส์, นอริช ซิตี้ และอีกหลายๆ แมตช์ จนส่งผลกระทบทำให้ทีมต้องเสียแชมป์ให้กับลิเวอร์พูล บอลไหล
อย่างเกมล่าสุดที่ทีมพลาดเสียถึง 3 จุดโทษ ซึ่งล้วนมาจากความผิดลาดส่วนบุคคลของกองหลังซิตี้ล้วนๆ บ่งบอกถึงความไม่แข็งแกร่ง และแนวรับเปราะบางง่ายเมื่อโดนโจมตีเรื่อยๆ
ดังนั้น เป๊ป จงทุ่มเงินเพื่อขันแนวรับให้แข็งแกร่งอีกครั้ง โดยซิตี้ ได้บรรลุข้อตกลงในการคว้าตัว รูเบน ดิอาส กองหลังทีมชาติโปรตุเกสของ เบนฟิก้า มาร่วมทีมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยข้อเสนอมูลค่า 55 ล้านยูโร โดยมี นิโกลาส โอตาเมนดี้ พ่วงเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในข้อเสนอ
นี่เป็นครั้งแรกจากการคุม 686 เกมของ กวาร์ดิโอล่า ที่ทีมของเขาเสียถึง 5 ประตูในเกมเดียว และยังเป็นครั้งแรกในรอบ 438 แมตช์ในสนามเอติฮัด สเตเดี้ยม ที่พวกเขาเสียถึง 5 ประตูจากการแข่งขันทุกรายการ
5) วาร์ดี้แฮตทริกใส่เรือใบเป็นครั้งที่สอง
เจมี่ วาร์ดี้ ซัดแฮตทริกแรกในฤดูกาล 2020/2021 ตอนนี้เขากำลังอยู่ในช่วงฟอร์มฮอตอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้เจ้าตัวก็เพิ่งซัด 2 ประตูในแมตช์เปิดซีซั่น และในเกมที่เอติฮัด สเตเดี้ยม เจ้าตัวยังทำผลงานได้สุดเพอร์เฟกต์จัดการเจ้าบ้านซะอยู่หมัด
หัวหอกวัย 33 ปี ยังคงเต็มไปด้วยชั้นเชิงและความรวดเร็ว โดยเฉพาะในเรื่องประสบการณ์เพราะเขาช่วยเรียกจุดโทษให้ทีม และรับหน้าที่สังหารเป็นประตูตีเสมอ 1-1 ก่อนจะตะบันอีก 2 ประตูในครึ่งหลัง
นี่เป็นแฮตทริกครั้งที่สองที่เจ้าตัวยิงใส่ซิตี้ โดยครั้งแรกนั้นเจ้าตัวยิงได้ในฤดูกาล 2016-17
เรื่อง/เรียบเรียง : แมนคูเนี่ยน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น