พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019-20 เป็นซีซั่นแรกที่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตัดสินใจใช้เทคโนโลยีและทีมงาน วีเออาร์ หรือการดูคลิปวิดีโอระหว่างการแข่งขันเผื่อว่าจะเปลี่ยนคำตัดสิน ซึ่งตอนแรกหลายคนก็มองว่า วีเออาร์ น่าจะช่วยทำให้เกมฟุตบอลมีความโปร่งใสและมีคำตัดสินที่ถูกต้องมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าผลลัพธ์ที่ออกมาถือว่าน่าผิดหวัง มีหลายจังหวะที่มองกันว่า วีเออาร์ ทำหน้าที่ได้ไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะทั้งในตอนที่พวกเขาเปลี่ยนคำตัดสินหรือมองข้ามจนไม่ทำอะไรเลย ซึ่งวันนี้เราก็มีเกร็ดที่น่าสนใจบางอย่างเกี่ยวกับ วีเออาร์ ในศึก พรีเมียร์ลีก ประจำซีซั่นนี้มาให้ได้ชมกัน
– จำนวนครั้งการกลับคำตัดสินด้วย วีเออาร์
ตลอดทั้งฤดูกาลนี้ วีเออาร์ ทำการเปลี่ยนคำตัดสินไปทั้งหมดรวม 109 หน โดยกรณีนี้นับรวมทั้งการเปลี่ยนคำตัดสินที่เป็นใจและเป็นผลเสียกับทีมต่างๆ ซึ่งทีมที่เจอกับการเปลี่ยนคำตัดสินเพราะ วีเออาร์ มากที่สุดคือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่จำนวน 16 ครั้ง
หากเจาะลึกลงไปแล้วนั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน คือทีมที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนคำตัดสินเพราะ วีเออาร์ มากที่สุด ด้วยจำนวน 10 ครั้ง
ขณะที่ คริสตัล พาเลซ, เลสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เซาธ์แฮมป์ตัน และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ตามมาเป็นอันดับ 3 ร่วมกัน ที่จำนวน 8 หน ส่วนทีมใหญ่ทีมอื่นๆ ลิเวอร์พูล กับ เชลซี ได้ประโยชน์จาก วีเออาร์ 5 ครั้งเท่ากัน ขณะที่ อาร์เซน่อล ไปประโยชน์ไป 4 หน
ขณะเดียวกันทีมที่การเปลี่ยนคำตัดสินของ วีเออาร์ เป็นผลเสียกับพวกเขามากที่สุดคือ เวสต์แฮม ด้วยจำนวนถึง 10 หน ตามมาด้วย นอริช ที่จำนวน 9 ครั้ง ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ กับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ครองอันดับ 3 ร่วมกัน ด้วยจำนวน 8 หน
– เกี่ยวกับประตู
จากการกลับคำตัดสินด้วย วีเออาร์ ทั้งหมด 109 ครั้งนั้น มีทั้งหมด 27 หนที่นำไปสู่การทำประตูได้ในท้ายที่สุด ซึ่ง อาร์เซน่อล คือทีมที่สุดท้ายแล้วได้ประตูจากการเปลี่ยนคำตัดสินด้วย วีเออาร์ มากที่สุด ด้วยจำนวน 4 หน รองลงมาคือ แมนฯ ซิตี้ กับ คริสตัล พาเลซ ที่จำนวน 3 ครั้ง
ทางตรงกันข้าม วีเออาร์ ริบประตูในฤดูกาลนี้ไปทั้งหมด 56 ประตู โดยในจำนวนนั้นมี 34 ครั้งที่มาจากการเปลี่ยนคำตัดสินว่าจังหวะที่ทำประตูได้เป็นจังหวะล้ำหน้ำ
การให้จุดโทษ
ในฤดูกาลนี้มีการเปลี่ยนคำตัดสินด้วย วีเออาร์ จนให้ลูกจุดโทษไป 22 ครั้ง ซึ่งในจำนวนนั้นก็กลายเป็นประตูถึง 13 ครั้งด้วยกัน แถมทีมงาน วีเออาร์ ยังสั่งให้มีการยิงลูกจุดโทษใหม่อีก 4 หนด้วย แต่จาก 4 ครั้งที่มีการยิงลูกจุดโทษใหม่มันก็ยังมีคนยิงเข้าเพียงหนเดียวเท่านั้น
ขณะเดียวกันมีอยู่ 7 หนที่ตอนแรกกรรมการในสนามเป่าให้เป็นลูกจุดโทษ แต่ทีมงาน วีเออาร์ กลับคำตัดสินเป็นไม่ให้ลูกจุดโทษ โดยในจำนวนนั้นมาจากการล้ำหน้า 1 ครั้ง
ใบแดง
ชี้แจงก่อนว่า วีเออาร์ จะมีสิทธิ์เปลี่ยนคำตัดสินเรื่องใบแดงก็ต่อเมื่อมันเป็นจังหวะใบแดงโดยตรงเท่านั้น ถ้าใครโดนใบเหลือง 2 ใบ ให้ตายยังไงก็จะไม่มีการเปลี่ยนคำตัดสิน ซึ่งตลอดทั้งฤดูกาลนี้มี 3 ครั้งที่ตอนแรกเชิ้ตดำชักใบแดงไล่นักเตะออกจากสนาม แต่สุดท้ายมีการเปลี่ยนคำตัดสินจนทำให้คนนั้นๆ ได้อยู่ในสนามต่อ สปอร์ตพูล
แต่ก็มีถึง 9 ครั้งที่ตอนแรกนักเตะนึกว่าจะได้เล่นในสนามต่อ แต่ทีมงาน วีเออาร์ คิดว่ามันเป็นจังหวะฟาวล์ที่ร้ายแรงจนเปลี่ยนคำตัดสินให้นักเตะคนนั้นๆ โดนใบแดงทันที
– ทีมที่มีผลต่างการได้ประโยชน์และเสียประโยชน์จาก วีเออาร์ มากที่สุด
ข้อนี้เป็นการเอาจังหวะที่ได้ประโยชน์กับเสียประโยชน์เพราะการตัดสินของ วีเออาร์ มาหักลบกัน อารมณ์เหมือนการคำนวณผลต่างประตูได้เสีย ซึ่งหลายคนอาจจะคิดว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่จะได้ประโยชน์จาก วีเออาร์ มากที่สุด แต่ที่จริง แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นอันดับ 2 ในชาร์ตนี้ ด้วยจำนวน +7
แต่ทีมที่มีผลต่างการได้ประโยชน์และเสียประโยชน์จาก วีเออาร์ มากที่สุดในฤดูกาล 2019-20 ที่จริงแล้วคือ ไบรท์ตัน ด้วยจำนวน +8 โดยที่ พาเลซ ตามมาเป็นอันดับ 3 ด้วยจำนวน +4 ขณะที่ผลต่างด้านการได้ประโยชน์และเสียประโยชน์จาก วีเออาร์ ของทีมดังทีมอื่นๆ ประกอบด้วย ลิเวอร์พูล +2, สเปอร์ส +1, เลสเตอร์ +1, แมนฯ ซิตี้ +0, อาร์เซน่อล -1 และ เชลซี -2
เรื่อง/เรียบเรียง : แมนคูเนี่ยน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น