อะไรจะเกิดขึ้น…ถ้านิวคาสเซิ่ลได้เจ้าของใหม่


ตอนนี้เชื่อว่าเหล่าบรรดาทีมยักษ์ใหญ่คงเริ่มกังวลกับการที่ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด กำลังมีได้เจ้าของใหม่

เจ้าของที่รวยบล้นฟ้ายิ่งกว่าท่าน ชีค มานซูร์ ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็น 10 เท่า! และจะเสกให้ นิวคาสเซิ่ล เป็นสโมสรฟุตบอลที่รวยที่สุดในพื้นพิภพนี้

เพราะคนที่จะเข้ามาเทคโอเวอร์นั่นก็ก็คือ เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ที่เคยมีข่าวต้องการเทคโอเวอร์ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ตระกูลเกลเซอร์ปฏิเสธที่จะขายให้นั่นแหละ

ด้วยพลังเงินนี้เองที่จะก้าวขึ้นมาท้าทายไม่ใช่แค่ “ท็อป 6” แต่อาจจะขึ้นไปถึง “ท็อปโฟร์” เพราะด้วยรากฐานและระดับของสโมสร “สาลิกาดง” นั้นไม่ได้เป็นรองเหล่าทีมใหญ่ในอังกฤษ เพราะพวกเขามีพร้อมทุกอย่างรออยู่แล้ว


ตอนนี้เหลือแค่ “เงิน” นี่แหละที่อาจจะเข้ามาเสกความสำเร็จเหมือนอย่างที่ เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำและยืนหยัดมาจนถึงทุกวันนี้

แน่นอนว่าหลังการเทคโแเวอร์คงจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายทั้งในเรื่องของการบริหารภายในองค์กร การปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน และที่สำคัญที่สุดก็คือการเสริมทีม

หลายสิ่งอย่างจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนที่ นิวคาสเซิ่ล เพื่อให้ทีมไปอยู่ในจุดที่เจ้าของสโมสรต้องการนั่นคือ “จุดสูงสุด” เท่านั้น


จัดการป้าย “สปอร์ต ไดเร็ค” ให้หมดสิ้น


ตัวหนังสือ SPORT DIRECT.COM ที่ติดตระหง่านอยู่ตรงอัฒจันทร์ของสโมสรน่าจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ขัดหูขัดตาของแฟนบอลอยู่บ้าง เพราะด้วยสีสันของมันดูเป็นการทำลายมนต์ขลังของเหล่า “ทูน อาร์มี่” เป็นอย่างมาก

ด้วยสีประจำสโมสรที่เป็น “ขาว-ดำ” เมื่อใส่สีสันเข้าไปมันทำให้จากที่ดู “ดุดัน” กลายเป็น “หน่อมแน้ม” ไปเลย

ไมค์ แอชลี่ย์ เปลี่ยนสังเวียน เซนต์ เจมส์ พาร์ค ที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกเฉียงเหนือกลายเป็นโฆษณาขนาดใหญ่ แน่นอนว่าสำหรับเจ้าของใหม่ที่เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาคงไม่เอาไว้

ที่ผ่านมาแฟนบอล นิวคาสเซิ่ล ถือเป็นหนึ่งในสโมสรที่จงรักภักดีกับทีมอย่างยิ่ง ไม่ว่าทีมจะผลงานแย่แค่ไหนก็จะเข้ามาเชียร์จนแทบเต็มความจุอยู่เสมอ คาดว่าอาจมีปลดป้ายนี้ลงอย่างแน่นอน


เชื่อมโยงกับชุมชน


นี่คงเป็นอีกเรื่องที่เจ้าของใหม่จะเข้ามาจัดการให้เรียบร้อย และดูท่าก็คงไม่ยากเกินไปนัก

ไมค์ แอชลี่ย์ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับแฟนบอลมากอย่างที่ควรจะเป็นและมักทำอะไรตามใจตัวเองเสมอ ถึงขนาดมีรายงานว่าเอาภาพของ เซอร์ บ็อบบี้ ร็อบสัน ออกจากสนามไป ซึ่งหากเจ้าของใหม่เข้าถึงแฟนบอลและสร้างสิ่งที่พวกเขาถูกใจเพียงเล็กน้อยก็คงได้ใจเต็มๆ

สโมสรมีตำนานมากมายที่เห็นได้ชัดไม่ต้องมองไกล อลัน เชียเรอร์ คือคนนั้น นักเตะที่ผู้ซึ่งจงรักภักดีกับสโมสรอย่างยอดเยี่ยม สมควรมีรูปปั้นอยู่หน้าสนาม

หรือจะเรื่องของการเข้าถึงแฟนบอลในแบบนี้ บอร์นมัธ และ เลสเตอร์ ซิตี้ ทำให้เห็นและได้รับความรักจากแฟนบอลอย่างล้นหลาม แล้วกับทีมอย่าง นิวคาสเซิ่ล ที่แฟนบอลมีความคลั่งไคล้ไม่น้อยหน้าใครที่ไหน ถ้าทำแบบนี้พวกเขาก็พร้อมที่จะเชียร์ทีมรักแบบขาดใจแน่นอน


นำเสนอตัวแทนที่เหมาะสม


หนึ่งในปัญหาใหญ่ที่ ไมค์ แอชลี่ย์ ในการปกครองของเขาก็คือขาดความโปร่งใสในการทำงาน แม้ว่าตัวเองจะเป็นประธานสโมรก็ตาม

เรื่องเหล่านั้นไม่ใช่แบบฉบับการทำงานของสโมสรชั้นนำ, เจ้าของสโมสรระดับหัวกะทิส่วนมากเลือกที่จะคงความเป็นส่วนตัวโดยมีตัวแทนทำหน้าที่กระบอกเสียงอย่าง ซิกี เบกิริสไตน์ ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ ที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ราคาบอลไหล

ไม่ว่า นิวคาสเซิ่ล จะเรียกมันว่า “ผู้อำนวยการกีฬา” หรือ “หัวหน้าผู้บริหาร” หรือจะอะไรก็ตามคงจะเป็นคนที่จะแนะนำให้แฟนๆได้เห็นหน้ากัน


ผู้จัดการทีมคนใหม่


ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ถูกพูดถึงกันอย่างหนาหูว่าหากมีการเทคโอเวอร์สโมสร นายใหญ่คนปัจจุบันอย่าง สตีฟ บรูซ อาจจะไม่ได้อยู่ในตำแหน่ง

ด้วยชื่อชั้นและฝีมือต้องยอมรับว่าหาก นิวคาสเซิ่ล ต้องการยกระดับสโมสรให้ก้าวขึ้นมาเป็นระดับหัวแถว พวกเขาต้องมีเทรนเนอร์ที่ฝีมือทัดเทียมกับเหล่าทีมใหญ่อย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า, เจอร์เก้น คล็อปป์, โชเซ่ มูรินโญ่ หรือแม้แต่สายเลือกใหม่อย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา, แฟร้งค์ แลมพาร์ด และ มิเกล อาร์เตต้า

บรูซ อาจจะได้โอกาสพิสูจน์ฝีมือในช่วงต้น แต่หากดูท่าแล้วคงไปได้ไม่เท่าไรยังไงก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน

คนที่มีข่าวด้วยมากที่สุดหนีไม่พ้น เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ที่ว่างงานอยู่ ด้วยพลังเงินที่มีสามารถเสกความสำเร็จได้อาจจะดึงนายใหญ่ชาวอาร์เจนติน่ามาสู่ทีมก็เป็นได้


การเสริมทัพจัดเต็ม


ปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเบียดลุ้นตำแหน่งแชมป์กับเหล่ายักษ์ใหญ่คงหนีไม่พ้นเรื่องของการเสริมผู้เล่นระดับ “บิ๊กเนม” เข้าสู่สโมสร

ด้วยขุมกำลังของทีมในปัจจุบัน นิวคาสเซิ่ล ยังคงเป็นได้แค่ระดับทีมกลางตารางเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่ามันย่อมไม่เป็นที่พอใจของเจ้าของสโมสรที่ร่ำรวยล้นฟ้า

ตอนนี้เหล่าบรรดาพ่อค้าแข้งชื่อดังทั้งหลายต่างก็ถูกสื่อจับโยงกันไปทั่ว ซึ่งแน่นอนว่าเป็นข่าวที่เหล่าบรรดานักข่าวหรือสื่อเขียนกันไปเองทั้งสิ้น

เชื่อว่าจะมีแข้งดังมาร่วมทีมแน่ล่ะ แต่อาจจะไม่ถึงขั้นอันดับต้นๆของโลกในเวลานี้ ขอเวลาอีกสัก 1-2 ปีพอทีมได้ไปลุยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รับรองว่าจะมีเข้ามาอย่างแน่นอน





เรื่อง/เรียบเรียง : แมนคูเนี่ยน











ความคิดเห็น