ผลกระทบโควิด-19ของมาดริด


เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่ของลีกาได้รับผลกระทบรอบด้านทั้งทางตรงและทางอ้อมจากวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ฟุตบอลถูกระงับการแข่งขันไปนานกว่า 2 เดือนเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส’โควิด-19′ จนเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้าทั้งสโมสรน้อยใหญ่ที่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายต่อเนื่องโดยไม่มีรายได้เข้าทีม

แหล่งรายได้ของสโมสรมาจากหลายทางโดยเฉพาะค่าตั๋วชมเกม, การขายสินค้าที่ระลึกและลิขสิทธิ์โทรทัศน์ที่ขาดหายไปในช่วงนี้เนื่องจากไม่มีเกมแข่งขัน ดังนั้นแต่ละทีมจึงหาทางลดค่าใช้จ่ายบางส่วนที่สามารถทำได้และหนึ่งในนั้นคือการลดค่าจ้างนักเตะ

นับเฉพาะ 3 สโมสรยักษ์ใหญ่ของเมืองกระทิงอย่าง เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า และ แอตเลติโก มาดริด ที่ต่างแบกรับภาระจ่ายค่าจ้างนักเตะจำนวนมากจึงมีความจำเป็นต้องใช้แนวทางดังกล่าวเพื่อรักษาสมดุลทางการเงินของสโมสรที่สูญเสียรายได้ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสและอีกหลายเดือนข้างหน้า แม้ว่าเกมลีกาจะกลับมารีสตาร์ทก็ตาม แต่ยังไม่มีรายได้จากค่าตั๋วเข้าชมเกมเนื่องจากจะเป็นการแข่งขันแบบปิดสนาม


แอตเลติโก มาดริด นำร่องด้วยการทำข้อตกลงกับนักเตะและสตาฟฟ์โค้ชยอมลดค่าจ้างจำนวนหนึ่ง ตามมาด้วย บาร์เซโลน่า ที่เจรจากับกลุ่มนักเตะในสังกัดก่อนนำมาซึ่งการทำข้อตกลงลดค่าจ้างมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากสโมสรแบกรับภาระจ่ายค่าเหนื่อยของนักเตะสูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์จากรายได้แต่ละปีของสโมสร

กรณีของ เรอัล มาดริด มีงบประมาณของสโมสรสำหรับฤดูกาลนี้จำนวน 822 ล้านยูโร แบ่งเป็น 161 ล้านยูโรจากตั๋วปีและการขายตั๋วแมตช์แข่งแต่ละครั้ง, 109 ล้านยูโรจากเกมกระชับมิตรและทัวร์นาเมนต์, 180 ล้านยูโรจากค่าลิขสิทธิ์ทีวี และ 372 ล้านยูโรจากค่าการตลาดต่างๆ จากการประเมินระบุว่าทีมชุดขาวจะสูญเสียรายได้ราว 20 เปอร์เซ็นต์หรือประมาณ 164 ล้านยูโรจากวิกฤต “โควิด-19”

ขณะที่พวกเขามีรายจ่ายต่อปีราว 741 ล้านยูโร นั่นหมายความว่าสโมสรจะมีรายจ่ายเกินกว่ารายรับราว 83 ล้านยูโร ในกรณีที่ฤดูกาลนี้ไม่สามารถกลับมารีสตาร์ทได้อย่างที่คาดหวัง


เรอัล มาดริด แบกรับภาระค่าจ้างนักเตะทีมชุดใหญ่แต่ละปี 283 ล้านยูโร ซึ่งอาจรวมถึง เรอัล มาดริด กาสตีย่า และ ฝ่ายบริหารสโมสร ถ้าหากสโมสรลดค่าจ้าง 30 เปอร์เซ็นต์ในฤดูกาลหน้าจะช่วยเซฟเงินถึง 100 ล้านยูโรต่อปี

4.5 ล้านยูโร ถ้าหากสโมสรลดค่าเหนื่อยลง 30 เปอร์เซ็นต์ ทั้ง เบล กับ รามอส จะรับค่าจ้างเหลือเพียง 10 ล้านยูโรต่อปี ส่วนนักเตะที่เหลือจะรับค่าจ้างลดหลั่นกันไป

ยกตัวอย่าง 2 ผู้เล่นที่รับค่าจ้างมากสุดของสโมสรอย่าง แกเร็ธ เบล กับ เซร์คิโอ รามอส ซึ่งคาดว่าทั้งคู่รับค่าจ้างปีละ 14.5 ล้านยูโร ถ้าหากสโมสรลดค่าเหนื่อยลง 30 เปอร์เซ็นต์ ทั้ง เบล กับ รามอส จะรับค่าจ้างเหลือเพียง 10 ล้านยูโรต่อปี ส่วนนักเตะที่เหลือจะรับค่าจ้างลดหลั่นกันไป ทีเด็ดบอลวันนี้


การลดค่าจ้าง 30 เปอร์เซ็นต์สามารถช่วยบรรเทาปัญหาทางการเงินที่ เรอัล มาดริด กำลังเผชิญอยู่เนื่องจากการขาดรายจาก “แมตช์ เดย์”, การปิดพิพิธภัณฑ์, การทัวร์สโมสรและร้านขายสินค้าที่ระลึก

ปัจจุบัน เรอัล มาดริด มีสัญญากับ 14 บริษัทที่สนับสนุนพวกเขา แต่มีเพียง อาดิดาส กับ สายการบิน เอมิเรตส์ เท่านั้นที่เป็นสปอนเซอร์หลัก หลังทีมชุดขาวเซ็นสัญญาใหม่กับ อาดิดาส เมื่อปี 2019 ที่มีอายุจนถึงปี 2028 มูลค่า 100 ล้านยูโรต่อปี ซึ่งอาจรวมโบนัสที่มีมูลค่าถึง 50 ล้านยูโรต่อปี ขณะที่สายการบินของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มอบเงินสนับสนุนปีละ 70 ล้านยูโร

วิกฤต “โควิด-19” ยังส่งผลกระทบต่อแผนการทำทีมสำหรับซีซั่น 2020-2021 ของ ซีเนดีน ซีดาน แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากทีมชุดขาวคงไม่ลงทุนซื้อนักเตะที่มีค่าตัวแพงกระฉูดเหมือนที่เคยทำตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา


ทัพ “โลส บลังโกส” ยังต้องปล่อยนักเตะในสังกัดออกจากทีมอีกหลายคน อาทิ นาโช่ เฟร์นานเดซ กับ บราอิม ดีอาซ รวมถึงพวกที่ปล่อยย้ายมาเล่นกับสโมสรอื่นด้วยสัญญายืมตัวอย่าง ดาเนียล เซบายอส, เซร์คิโอ เรกีลอน, อัลบาโร่ โอดรีโอโซล่า หรือ อาชราฟ ฮาคิมี่ อาจรวมถึง ลูก้า โยวิช กองหน้าชาวเซิร์บที่พวกเขาทุ่มเงิน 60 ล้านยูโรดึงมาจาก แฟร้งค์เฟิร์ต ในช่วงซัมเมอร์ปีก่อนด้วย





จากวิกฤต “โควิด-19” ที่กลายเป็นสึนามิเล่นงานระบบเศรษฐกิจของวงการฟุตบอลทั้งทางตรงและทางอ้อมทำให้ทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องพยายามดิ้นรนให้ฤดูกาลกลับมารีสตาร์ทอีกครั้งเพื่อเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของวงการลูกหนังแม้ว่ามันอาจจะสุ่มเสี่ยงต่อความปลอดภัยของชีวิตผู้คนโดยเฉพาะนักเตะ, สตาฟฟ์เทรนเนอร์และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ตาม





-แมนคูเนี่ยน-










ความคิดเห็น