ที่นี่เบลารุส โนสนโควิด 19


ในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 ระบาดหนักทั่วยุโรป และไม่มีท่าว่าจะหยุดลงได้เลย ฟุตบอลลีกของแทบทุกประเทศต้องปิดฉากลงโดยปริยาย จะชั่วคราวหรือยกเลิกเลยไว้รอบทสรุปกัน

ยกเว้นอยู่เพียงประเทศเดียวที่ยังเตะกันอยู่โดยไม่สนใจอินทรีหน้าพรหมไหน ไม่มีเบรกและไม่หวั่นต่อไวรัสโควิด-19 นี้ นั่นคือ เบลารุส

เบลารุสไม่ใช่ว่าจะปลอดจากโควิด-19 ซะทีเดียว แต่จำนวนนั้นถือว่าน้อยไม่ถึงร้อยรายและรัฐบาลคาดว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ เลยปล่อยให้กิจกรรมทุกอย่างรันไปตามปกติ

ลีกสูงสุดของเบาลารุสที่เรียกว่าเบลารูเชี่ยน พรีเมียร์ ลีก เพิ่งเริ่มเปิดม่านฤดูกาลใหม่ แฟนบอลยังคงเข้ามาชมเช่นเคย แม้จำนวนจะลดลงบ้างตามกระแสโลกที่หวาดกลัวอย่างหนัก

ฟุตบอลประเทศอื่นหยุดหายใจ แต่ที่นั่นต่างออกไป


เรามีสิทธิ์ที่จะตั้งข้อสงสัยว่า รัฐบาลอาจไม่ได้ตรวจตราอย่างละเอียดหรือมีมาตรการรับมือที่ดีพอ บางทีประเทศไกลปืนเที่ยงในความรู้สึกอย่างนี้น่าจะเหมือนแดนสนธยา ยากต่อการเข้าถึง

เบลารุสที่ได้อิสรภาพปกครองตัวเองในปี 1991 โดยมี อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก้ เป็นผู้นำประเทศ โดยครองบัลลงก์มามากกว่า 26 ปีด้วยกัน

เขาพัฒนาเบลารุสให้รุดหน้ามาเรื่อยๆ แม้จะเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกทะล ย่อมเสียเปรียบในเรื่องขนส่งเชิงพาณิชย์ก็ตาม


นอกเหนือจากการทำเหมืองแร่ต่างๆ เพราะใต้ดินเต็มไปด้วยแร่ธาตุชั้นดี จุดแข็งอย่างน่าทึ่งของเบราลุาสคือดิจิตัล

ลูคาเชนโก้ ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากจนในมินก์สซึ่งเป็นเมืองหลวงมีประชากร 2 ล้านคน กลายเป็นเมืองแห่งไอทีที่ทันสมัย มีบุคลากรเก่งๆทางด้านนี้มากกว่า 50,000 คน

แล้วพอมาเกิดไวรัสระบาดดีกรีความเข้มงวดยิ่งทวีเข้าไปอีก จากที่ไม่ปล่อยให้เข้ามาง่ายๆแม้คุณจะมาจากประเทศศิวิไลซ์ใหญ่โตแค่ไหน ก็กลายเป็นว่าปิดประตูปังใส่หน้าไม่ต้อนรับใครทั้งสิ้น


ส่วนการตรวจหาเชื้อก็เน้นแบบเอาให้เยอะไว้ก่อน จากนั้นแยกผู้อยู่ในข่ายสุ่มเสี่ยงไปกันไว้ รอให้ชัดเจนค่อยจัดการในขั้นตอนต่อไป

นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ไล่หาต้นตอของการเกิดโรคด้วย ระบบการทำงานที่เข้มข้นแต่เต็มไปด้วยความชัดเจน ไม่ทับซ้อนกันจนเกิดความวุ่นวาย ทำให้เบลารุสยืนหยัดอยู่ได้อย่างสง่างาม

แน่นอนการปล่อยให้ลีกเปิดฉากขึ้นแบบนี้ มันดูเต็มไปด้วยความเสี่ยง โควิด-19 สำแดงให้เห็นความร้ายกาจในการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วแล้ว เบลารุสจึงไม่ควรประมาท ตั้งการ์ดป้องกันอย่างแน่นหนา


แม้จะมีการตั้งคำถามจากสื่อในเรื่องนี้ เมื่อความแพนิคกระจายไปทั่วมุมโลก ทว่าสหพันธ์ฟุตบอลเบลารุสยังมองว่ายังไม่ถึงขั้นวิกฤตถึงขนาดต้องเบรกทุกกิจกรรมสำคัญที่คอยหล่อเลี้ยงประเทศ

เบลารุสอาจไม่เคยประสบความสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่เคยผ่านเข้ารอบสุดท้ายทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์คือฟุตบอลโลกหรือยูโร นับตั้งแต่แยกมาเป็นใหญ่เอง

แต่ในศึกยูโร 2020 รอบคัดเลือกพวกเขามีลุ้นตั๋วรอบสุดท้ายเพื่อสร้างประวัติศาสตร์ เมื่อได้เพลย์ออฟกับจอร์เจีย ซึ่งนั่นปลุกให้ผู้คนในประเทศตื่นตัวกับฟุตบอลมากขึ้นกว่าเดิม ราคาบอลไหล


โดยตำนานนักฟุตบอลเบลารุสที่มีชื่อเสียงที่สุด คงเป็นใครไปไมได้นอกจาก อเล็กซานเดอร์ คเล็บ ตำนานกองกลางของอาร์เซน่อลนั่นเอง จะมีนักเตะเบลารุสสักกี่คนที่เคยค้าแข้งกับอาร์เซน่อล แถมประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจ ตลอด 3 ปีตั้งแต่ 2005-08 ลงโม่ในทุกรายการไปถึง 130 นัดด้วยกัน แถมยังอยู่ในชุดรองแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกในปี 2006 ด้วย

จากนั้นได้ย้ายไปบาร์เซโลน่า แม้จะไม่ประสบความสำเร็จนัก แต่ คเล็บ คือบุคคลที่ทรงอิทธิพลมากๆของประเทศ  นำความภาคภูมิใจมาให้ ไม่มีแข้งคนไหนทำได้อย่างนี้แน่

เรื่องที่เบลารุสสามารถยืนหยัดจัดฟุตบอลลีกต่อไปได้ สร้างความประทับให้กับ เคล็บ เช่นเดียวกัน


เขาบอกไว้เลยว่านับตั้งแต่ตัวเองออกไปค้าแข้งสร้างชื่อเสียงในลีกใหญ่ยุโรป เห็นจะมีครั้งนี้แหล่ะที่ชื่อของเบลารุสยึดพื้นที่สื่อได้อีกครั้ง

เราไม่รู้หรอกว่าลีกเบลารุสจะฝืนโควิด-19 ได้นานแค่ไหน แต่ที่นี่คือตัวอย่างของประเทศเล็กๆทางฝั่งยุโรปตะวันออกที่แทบไม่มีใครรู้จัก กลับสามารถรับมือกับปัญหาใหญ่ระดับโลกได้

นี่คือเรื่องที่เราควรชื่นชมการทำงานของรัฐบาลที่จริงจังกับการป้องกันและประกาศให้โลกรู้ว่าในวันที่ฟุตบอลแทบจะหายไป เหลือเพียงที่นี่แห่งเดียวเท่านั้น





เพราะที่นี่คือ เบลารุส เป็นชื่อที่คนทั้งโลกต้องจดจำกันไปอีกนาน





-แมนคูเนี่ยน-









ความคิดเห็น