ลิเวอร์พูล มีโอกาสได้หวนกลับไปยังสนามว่านต๋า เมโตรโปลีตาโน่ เมกะลูกหนังที่พวกเขาผงาดคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อฤดูกาลผ่านมา แต่ครั้งนี้คู่ต่อสู้ไม่ได้เหมือนครั้งก่อน แต่ต้องมาเจอ แอตเลติโก มาดริด เจ้าของสนามซะเอง และ “หงส์แดง” แพ้ แอตเลติโก มาดริด เจ้าบ้าน 0-1 ในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อวันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
1) กำแพงเหล็กตราหมี
เป็นไปตามที่คาดไว้ แอตเลติโก มาดริด เริ่มเกมก็ชิงจังหวะบุกกระหน่ำใส่ ลิเวอร์พูล ทันทีแบบไม่ยอมให้ตั้งตัว ซึ่งจะเห็นได้ว่าในช่วง 5-6 นาทีแรก ทีมตราหมีบุกอยู่ข้างเดียว แล้วก็ดันชิงจังหวะทำประตูขึ้นนำก่อนได้ด้วย จากจังหวะลูกเตะมุมซึ่งบอลมาโดน ฟาบินโญ่ กระฉอกไปถึง ซาอูล ญิเกซ ที่ซัดเข้าไปไม่เหลือ
หลังจากได้ประตูที่ต้องการ งานนี้ “ตราหมี” ก็เปลี่ยนวิธีการเล่นแบบ รสบัส ตามฉบับที่ตนเองถนัดนัก และเป็นแท็คติกที่ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ถนัด โดยงานนี้เห็นได้ชัดว่า “หงส์แดง” ทำอะไรไม่ได้เลย แม้จะครองเกมได้เหนือกว่าแต่ไม่มีจังหวะยิงตรงกรอบแม้แต่ครั้งเดียว
2) เกมรุกหงส์ เจาะไม่เข้า
โดยลิเวอร์พูลยังคงใช้ 3 ประสานตัวรุกเหมือนเดิม ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แต่ ซิเมโอเน่ วางหมากแก้เกมมาด้วยเช่นกัน โดยใช้เกมรับ 4 ตัว และแทบไม่ขึ้นมาเติมเกม ทำให้สามประสาน “SMF” ไม่มีพื้นที่ให้เล่นในการใช้ความเร็วฉีกหนีคู่แข่ง
จนครึ่งหลังคล็อปป์แกเกมด้วยการถอด มาเน่ ออก เหตุเพราะเจ้าตัวโดนใบเหลืองไปแล้วทำให้ต้องเซฟตัวเอาไว้ก่อน และส่ง ดิว็อค โอริกี้ ลงมาแทน แต่ ดาวยิงชาวเบลเยียม ไม่สามารถสร้างความแตกต่างให้กับทีมได้เลย เช่นเดียวกับการส่ง อเล็กซ์ อ็อดซ์เลด-แชมเบอร์เลน มาแทน ซาลาห์ ก็ทำอะไรไม่ได้เลย
หลังจบเกมหงส์แดงยิงไม่ตรงกรอบเลยเป็นครั้งแรกจากการเล่นในทุกรายการนับตั้งแต่แมตช์แพ้ นาโปลี ที่สนามซาน เปาโล เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2018
3) ฮีโร่ ซาอูล
ซาอูล ญิเกซ จัดการส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายตั้งแต่ 4 นาทีแรก ทำให้ทีมสร้างความได้เปรียบในเกมแรก ประตูชัยในเกมนี้ทำให้ ซาอูล ซัดให้กับ “ตราหมี” ไปแล้ว 5 ประตูให้กับต้นสังกัดในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบน็อกเอาต์ เป็นรองเพียงแค่ อองตวน กรีซมันน์ อดีตสตาร์แอตเลติโก มาดริด ที่ปัจจุบันย้ายไปไล่ล่าตาข่ายให้กับ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า เพียงแค่ประตูเดียวเท่านั้น
ที่สำคัญ แอต. มาดริด มีสถิติดีเยี่ยมโดยพวกเขาไม่แพ้ใครเลย 37 เกม (ชนะ 33 เสมอ 4) ในทุกรายการหาก ซาอูล ยิงประตูได้ งานนี้สาวก “ตราหมี” คงตั้งความหวังให้เจ้าตัวยิงประตูที่แอนฟิลด์ เพื่อจะได้สร้างโอกาสในการเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ ทีเด็ดบอลวันนี้
4) เกมเยือนแชมเปี้ยนส์ ลีก ของหงส์แดงแย่
การพ่ายแพ้ในเกมนี้จะเป็นเกมที่ 2 ของลิเวอร์พูลชุดใหญ่จากการลงแข่งทุกรายการในฤดูกาลนี้ก็ตาม แต่ทั้งสองแมตช์เกิดขึ้นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และเป็นแมตช์เยือนในเกมฟุตบอลถ้วยยุโรปซะด้วย
สถิติการเล่นเกมเยือนในถ้วยใบโตยุโรป ลิเวอร์พูล แพ้ 7 จาก 11 เกมหลังสุดในแชมเปี้ยนส์ ลีก ถือเป็นจุดด้อยของหงส์แดงเลย และนี่เป็นอีกครั้งที่พวกเขาไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้เลยในบุกถิ่นของคู่แข่ง ที่สำคัญตอนนี้คงต้องอาศัยความได้เปรียบในแอนฟิลด์ อีกครั้ง
5) แก้ตัวที่แอนฟิลด์
แม้นัดแรกหงส์แดงจะพ่ายกลับมา แต่นัดที่ 2 ได้กลับไปเล่นในรังแอนฟิลด์ ถือเป็นนรกของทีมเยือน เพราะพลังเชียร์จากผู้เล่นหมายเลข 12 และมนต์ขลังในสนามจะสร้างความได้เปรียบให้กับเจ้าบ้าน รวมทั้งทำให้ผู้มาเยือนต้องขาสั่นเหมือนที่ บาร์เซโลน่า โดนมาแล้วเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา
สถานการณ์ในเวลานี้ต้องบอกว่า ลิเวอร์พูล ยังไม่ได้อยู่ในช่วงวิกฤติมากนัก เพราะพวกเขาแพ้ แอต.มาดริด เพียงแค่ประตูเดียวเท่านั้น ต่างจากในแมตช์รับมือ “เจ้าบุญทุ่ม” ที่เสียเปรียบบานเบอะตามหลังสามประตู ก่อนจะเกิดค่ำคืนมหัศจรรย์ในตอนนั้น
เรื่อง/เรียบเรียง : แมนคูเนี่ยน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น