ย้อนรอยเกม UCL 2016/17 : เรอัลมาดริด 4-2 บาเยิร์น มิวนิค

โรนัลโด้ระเบิดแฮตทริกพาราชันชุดขาวเก็บชัยชนะเหนือเสือใต้ที่เหลือผู้เล่นสิบคนช่วงต่อเวลาพิเศษแบบเบ็ดเสร็จ ทะลุสู่รอบตัดเชือกลุ้นป้องกันแชมป์ต่อไป

เกมยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดที่ 2 เจ้าบ้านใช้ เคยเลอร์ นาบาส ลงเฝ้าเสา แนวรับ นาโช่ เฟร์นานเดซ จับคู่กับ เซร์คิโอ รามอส ที่ลงเล่นเกมยูซีแอลเป็นเกมที่ 100 แดนกลาง โทนี่ โครส, คาเซมิโร่ และ ลูก้า โมดริช แนวรุก อิสโก้, คาริม เบนเซม่า และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้

ฝั่งทีมเยือนมี มานูเอล นอยเออร์ เป็นผู้รักษาประตู คู่ปราการหลัง เยโรม บัวเต็ง จับคู่กับ มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ แดนกลาง ชาบี อลอนโซ่, อาตูโร่ วิดาล และ ติอาโก้ อัลคัลทารา แนวรุก อาร์เยน ร็อบเบน และ ฟร้องค์ ริเบรี่ โดยมี โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กลับมาลงสนามเป็นกองหน้าตัวเป้า

โอกาสลุ้นของทีมเยือนในนาทีที่ 22 จากจังหวะครอสเข้ามาจากฝั่งซ้ายของ มาร์เซโล่ เปิดเข้ามาให้ คาริม เบนเซม่า ได้โหม่งแต่บอลหลุดเสาสองออกไป

เจ้าบ้านได้ลุ้นอีกครั้งในนาทีที่ 25 จากจังหวะลุยขึ้นมาของ คาริม เบนเซมา ก่อนไหลไปให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดึงจังหวะก่อนแทงต่อไปให้ ดาเนียล การ์บาฆาล ได้ยิงบอลพุ่งเข้ากรอบแต่ มานูเอล นอยเออร์ พุ่งปัดไว้ได้

นาทีที่ 27 เจ้าบ้านเกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ ดาเนี่ยล การ์บาฆาล เปิดบอลจากริมเส้นด้านขวาเข้ามา มานูเอล นอยเออร์ ปัดบอลออกมาไม่ดีมาเข้าทางของ เซร์คิโอ รามอส ได้ซัดเหน่งๆแต่บอลไปติดบล็อคของ เยโรม บัวเต็ง

นาทีที่ 30 บาเยิร์น มิวนิค เกือบพลาดท่าเสียประตู เมื่อ ฮุมเมิ่ลส์ สกัดบอลไปอัดใส่ เบนเซม่า แต่ยังดีที่บอลเด้งกลับมาและกลิ้งหลุดกรอบออกไป

จากเกมสวนกลับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ พาบอลขึ้นมาก่อนตัดสินใจยิง บอลติดเซฟ นอยเออร์ จังหวะสุดท้าย บัวเต็ง เคลียร์ออกไปได้

นาทีที่ 40 คาเซมิโร่ เข้าตัดฟาวล์ใส่ อาร์ตูโร่ วิดัล ผู้ตัดสินเป่าให้ บาเยิร์น ได้ฟรีคิก และควักใบเหลืองให้ คาเซมิโร่ แต่ฟรีคิก อาลาบา ยิงเหินข้ามคานออกไปไกล

หลังจากนั้นจบครึ่งแรก เรอัล มาดริด ยังคงเสมอ บาเยิร์น มิวนิค 0-0

เริ่มครึ่งหลัง นาที 49 เจ้าบ้านได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะที่ โทนี่ โครส เปิดลูกเตะมุมเข้ามาแนวรับบาเยิร์นโหม่งสกัดออกมาเข้าทาง อิสโก้ ได้ยิงแต่บอลเฉี่ยวเสาออกไปแบบฉิวเฉียด

นาทีที่ 50 ทีมเยือนเกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ ดาวิด อลาบา เปิดเข้ามาให้ อาร์เยน ร็อบเบน ได้ยิงแต่โดนไม่เต็มบอลลอยเกือบข้ามเส้นไปแล้วแต่ มาร์เซโล่ ตามมาสกัดออกจากเส้นได้ทันเวลา

ทีมเยือนมาได้จุดโทษในนาทีที่ 51 จากจังหวะที่ อาร์เยน ร็อบเบน เลี้ยงบอลจี้เข้าไปในกรอบเจตโทษก่อนที่จะโดน คาเซมิโร เตะล้มลง ผู้ตัดสินชี้เป็นลูกจุดโทษทันที และเป็น โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด เสือใต้ขึ้นนำ 1-0 สกอร์รวมเท่ากัน 2-2 แต่เรอัล มาดริด นำอยู่ด้วยกฎประตูทีมเยือน

นาทีที่ 76 ราชันชุดขาวมาได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่ คาเซมิโร่ แตะบอลหนี โธมัส มุลเลอร์ มาได้ก่อนเปิดบอลเข้าเขตโทษให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สอดเข้ามาโหม่งตุงตาข่าย เกมกลับมาเท่ากัน 1-1 สกอร์รวม มาดริดนำ 3-2

ทีมเสือใต้มาได้ประตูหนีออกไปอีกในนาทีต่อมา จากจังหวะ โธมัส มุลเลอร์ พักบอลในเขตโทษให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ แต่โดน นาโช เฟร์นานเดซ สกัดบอลตัดหน้าไปโดน เซร์คิโอ รามอส ไหลเข้าประตูไป บาเยิร์นนำอีกครั้ง 2-1 สกอร์รวมเท่ากัน 3-3

แต่สถานการณ์ของทีมเยือนมาแย่ลงไปอีกในนาทีที่ 83 จากจังหวะที่ อาร์ตูโร วิดาล ที่มีใบเหลืองติดตัวอยู่แล้ววิ่งมาสไลด์หนักใส่ มาร์โก้ อาเซนซิโอ ผู้ตัดสินไม่รอช้าควักใบเหลืองที่สองไล่กองกลางชาวชิลีออกจากสนามทันที

จบเกม 90 นาทีเสมอกันที่สกอร์รวม 3-3 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที

นาทีที่ 98 เจ้าบ้านได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะที่ มาร์โก้ อาเซนซิโอ ได้บอลในกรอบเขตโทษก่อนหาจังหวะได้ยิงด้วยซ้ายยัดเสาแรกแต่ มานูเอล นอยเออร์ ยังล้มตัวปัดได้อย่างยอดเยี่ยม

นาทีที่ 104 ราชันชุดขาวตามตีเสมอได้สำเร็จจากจังหวะที่ เซร์คิโอ รามอส ยกบอลให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ พักบอลลงก่อนซัดด้วยซ้ายบอลผ่านมือ มานูเอล นอยเออร์ เข้าประตูไปแม้ภาพช้าจะแสดงให้เห็นว่าดาวยิงชาวโปรตุกีสล้ำหน้าค่อนข้างชัดเจนแต่ไลน์แมนไม่ได้ยกธงเป็นลูกล้ำหน้าแต่อย่างใด มาดริดตีเสมอ 2-2 สกอร์รวมนำ 4-3 วิเคราะห์ บอล วัน นี้ สปอร์ต พลู

เจ้าบ้านมาได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 109 จากจังหวะที่ มาร์เซโล่ พาบอลเลี้ยงแหวกแนวรับบาเยิร์นมาถึง 3 คนก่อนไหลเข้ากลางให้ คริสเตียโน โรนัลโด้ ยิงง่ายๆเข้าประตูไปเป็นแฮตทริกในเกมนี้ของเจ้าตัว มาดริดนำ 3-2 สกอร์รวม 5-3 และเป็นลูกที่ 100 ในชปล.ของกัปตันทีมชาติโปรตุเกสรายนี้

นาที 112 มาดริดก็หนีห่างออกไปอีก มาร์โก้ อเซนซิโอ เลี้ยงสวยขึ้นมาก่อนกระชากหนี แมตส์ ฮุมเมิ่ลส์ไปซัดด้วยขวาบอลพุ่งเรียดเสียบเสาไกลสุดสวย เรอัล มาดริดนำ 4-2 สกอร์รวม 6-3

จบเกมเป็นเรอัล มาดริดเอาชนะบาเยิร์น มิวนิคไปได้ 4-2 ในช่วงต่อเวลาพิเศษเข้ารอบรองชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกไปได้ด้วยสกอร์รวม 6-3

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

เรอัล มาดริด : เคย์เลอร์ นาบาส(GK), ดาเนี่ยล การ์บาฆัล, นาโช่ เฟอร์นานเดซ, เซร์คิโอ รามอส, มาร์เซโล่, คาเซมิโร่, โทนี่ โครส, ลูก้า โมดริช, อิสโก้, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาริม เบนเซม่า

บาเยิร์น มิวนิค : มานูเอล นอยเออร์(GK), ฟิลิปป์ ลาห์ม, แมตส์ ฮุมเมลส์, เจอโรม บัวเต็ง, ดาวิด อลาบา, อาร์ตูโร่ วิดัล, ชาบี อลอนโซ่, ธิอาโก้ อัลคันทาร่า, อาร์เยน ร็อบเบน, ฟร้องค์ ริเบรี่, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

เรื่อง/เรียบเรียง : แมนคูเนี่ยน