หากกล่าวถึงแบ็กซ้ายที่ดีที่สุดในโลก ในช่วงทศวรรษ 90 เชื่อเหลือเกินว่า หนึ่งในนั้นส่วนใหญ่ต้องรู้จัก โรแบร์โต้ คาร์ลอส ตำนานแบ็กซ้ายชาวบราซิลอย่างแน่นอน
โรแบร์โต้ คาร์ลอส ดา วิลวา โรชา หรืออีกชื่อที่แฟนบอลชาวไทยในยุค 2000 รู้จักกันเป็นอย่างดี อย่าง โรแบร์โต้ คาร์ลอส ตำนานแบ็กซ้าย ทีมชาติบราซิล เกิดเมื่อวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 1973 ที่รัฐเซาเปาโล ประเทศบราซิล เขาเริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพ เป็นครั้งแรกกับสโมสร ยูนิเอา เซา เจา ดี อราราส เมื่อฤดูกาล 1990
โดย โรแบร์โต้ คาร์ลอส ถือว่าเป็นผู้เล่น ที่มีส่วนสูงค่อนข้างน้อย เพียง 168 เซนติเมตรเท่านั้น แต่กลับมีเท้าซ้ายที่ทรงพลัง ลูกยิงที่หนักหน่วงและรุนแรง และมีพละกำลังล้นเหลือในการเติมเกมบุก
คาร์ลอส รักการเล่นฟุตบอลมาก เรียกว่าพอว่างเมื่อไหร่ก็จะชวนเพื่อนมาตั้งโกล์หนูเล่นกันในซอยแล้ว แต่อย่างที่บอกคือพ่อแม่ไม่มีตังค์ เจ้าคาร์ลอสน้อย จึงต้องเริ่มทำงานหาเงินจุนเจือครอบครัวตั้งแต่อายุแค่ 12 ปี จากการเป็นหนุ่มโรงงานทอผ้านั่นเอง
อย่างไรก็ตาม พรสวรรค์ทางด้านฟุตบอลของเขาดันไปเตะตาแมวมองจากสโมสร แอตเลติโก มิเนโร่ จนได้รับสัญญานักเตะอาชีพ แล้วหยุดทำงานประจำมาเป็นนักกีฬาเต็มตัวแทน ซึ่งก็แจ้งเกิดได้อย่างรวดเร็ว พร้อมติดทีมชาติชุดใหญ่ได้ตอนอายุ 19 ปีเท่านั้น และนี่ที่ก็ช่วยสร้างให้เขาเป็นนักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยม ก่อนที่เขาจะได้ไปเซ็นสัญญากับ พัลไมรัส ทีมยักษ์ใหญ่ ในปี 1990
ใน ปี 1995 โรแบร์โต้ คาร์ลอส เกือบได้ย้ายไปค้าแข้งกับ เซา เปาโล ทว่าด้วยความเก่งกาจของเขา ทำให้ อินเตอร์ มิลาน ทีมยักษ์ใหญ่จากอิตาลี ทุ่มเงินซื้อเขาไปร่วมทัพ
เขาย้ายไปเล่นให้กับ อินเตอร์ มิลาน ท่ามกลางความคาดหวังของแฟนบอล ทว่าเขากลับทำผลงานได้ไม่ดีนัก เนื่องจากการเป็นโรคคิดถึงบ้าน อีกทั้ง เขายังได้เล่นในตำแหน่งที่เขาไม่ถนัด เขาจึงขอย้ายทีม จนกระทั่ง เรอัล มาดริด ได้ติดต่อดึงตัวเขาไปร่วมทีม และนี่คือการซื้อที่คุ้มค่าที่สุดในรอบหลายสิบปี ของ รีลมาดริด เลยก็ว่าได้
และที่มาดริดแห่งนี้ถือได้ว่าเป็น ช่วงพีคที่สุด ในชีวิตการค้าแข้งเขาและสร้างชื่อเสียงอันโด่งดังไปทั่วโลก
แม้ด้วยรูปร่างที่แตกต่างจากนักเตะคนอื่น เขามีท่อนขาที่แข็งแกร่งดุจท่อนไม้ มีรูปร่างที่เตี้ย สั้น แถมยังหัวโล้น ทว่าสิ่งเหล่านั้น ไม่สามารถบดบังความเก่งกาจของเขาได้เลย เพราะเขาคือแบ็กซ้ายที่ทรงพลังที่สุด เขาสกัดแบบหนักหน่วง มีลูกยิงไกล และลูกฟรีคิก ที่จัดอยู่ในระดับขั้นเทพ ทำให้เขาโดดเด่นที่สุดในตำแหน่งแบ็กซ้ายของโลกในเวลานั้น
ในปี 1997 คาร์ลอส ก็สามารถคว้าแชมป์ลีกสเปน เป็นครั้งแรกกับ เรอัล มาดริด ได้สำเร็จ แถมในปีเดียวกัน เขายังคว้าแชมป์ โคปา อเมริกา เท่านั้นไม่พอ ในเดือนธันวาคม เขาและทีมชาติบราซิล ยังผงาดซิวแชมป์คอนเฟเดอร์เรชั่น คัพ อีกต่างหาก
ในซีซั่นถัดมา คาร์ลอส ก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ เรอัล มาดริด ผงาดคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยการเฉือนเอาชนะ ยูเวนตุส 1-0 ในรอบชิงชนะเลิศ ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม
คาร์ลอสเล่นให้กับ เรอัล มาดริด นานถึง 11 ปี ซึ่งช่วงเวลามาดริดนี้เองถือได้ว่าเป็น ช่วงพีคที่สุด ในชีวิตการค้าแข้งของ โรแบร์โต้ คาร์ลอส เขาสามารถพาทีม คว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยนแชมเปี้ยนลีก ได้ถึง 3 สมัย ในปี 1998 . 2000 และ 2002 และแชมป์ลีกอีก 4 สมัย ในปี 1997, 2001, 2003 และ 2007 โดยลงเล่นในลีคถึง 370 และยิงประตู ได้มากถึง 47 ประตูในลีก
ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่สูง สำหรับนักเตะ ในตำแหน่งกองหลัง ก่อนที่จะย้ายออกไปเล่นให้กับ สโมสรเฟเนร์บาห์เช่ ในลีกตุรกี 2007-09 และเขาก็ได้ประกาศเลิกเล่นให้ทีมชาติบราซิล หลังลงเล่นไปถึง 125 นัด
จากนั้นย้ายกลับบ้านเกิดมาอยู่กับสโมสร โครินเทียนส์ และแขวนสตั๊ด รอบแรกกับสโมสร อันจีมาคัชคาลาในปี 2012 และสุดท้าย เลือกแขวนสตั๊ด
ตลอดชีวิตการค้าแข้ง ของ โรแบร์โต้ คาร์ลอส เขาลงสนาม ในศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก มากกว่า 100 นัด ซึ่งถือได้ว่าเป็น 1 ในจำนวน 15 คน ที่ลงสนามในรายการนี้ ได้เกิน 100 นัด ก่อนที่จะกลับมา เซ็นสัญญานักเตะ สปอร์ตพูล
ส่วนในนามทีมชาตินั้น คาร์ลอส ลงเล่นให้บราซิลไปทั้งสิ้น 125 นัด ยิงได้ 11 ประตู และหนึ่งในลูกยิงที่ถูกเล่าขาน อันลือลั่น คือ “บานาน่า ชู๊ต” นั่นเอง ซึ่งเกิดขึ้นในเกมอุ่นเครื่องระหว่าง บราซิล กับ ฝรั่งเศส เมื่อปี 1997 โรแบร์โต คาร์ลอส ได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการยิงฟรีคิกระยะไกลด้วยหลังเท้าซ้ายส่งบอลโค้งอ้อมกำแพง เช็ดเสาเข้าไปเสียบตาข่ายอย่างไม่มีใครอยากเชื่อ และวันนี้เขามาเฉลยแล้วว่า นี่คือเรื่องบังเอิญหรือว่าตั้งใจ !
“สารภาพนะ ผมเองก็ไม่รู้ว่ามันเข้าได้ไง เพราะลูกนี้ผมอัดเต็มหลังเท้าและวิถีบอลก็ไม่ได้ตรงกรอบอะไรเลย แต่แล้วจู่ ๆ มันก็เลี้ยวเข้าเสียบตาข่ายไปแบบสุดงง ” คาร์ลอส กล่าว
“ใช่เลย ผมเองยังไม่อยากเชื่อว่ามันเป็นประตู เพราะนี่คือเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นจริงบนโลกใบนี้ และมันคือทำได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ไม่มีวันเกิดขึ้นอีกชัวร์ ผมคอนเฟิร์ม ”
นอกจากนั้น สามารถพาทีมคว้าแชมป์โกปา อเมริกา ได้ 2 สมัย ในปี 1997 และ 1999 ฟุตบอลโลกปี 2002 และแชมป์คอนเฟเดอร์เรชั่น คัพ 1 สมัย
คาร์ลอส ถือเป็นนักเตะที่ทรงพลัง และลูกยิงที่หนักหน่วงรุนแรง และมีฟอร์มการเล่นที่คงเส้นคงวามาก แม้เขาอาจไม่ได้เหนียวที่สุด แต่ก็เหนียวแน่น และมีจุดเด่นที่หาใครเทียบได้ยากเช่นกัน
-แมนคูเนี่ยน-
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น