5 ข้อ ผีบุกจมเรือใบแต่อดเข้าชิงคาราบาว คัพ


แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศ ศึกคาราบาว คัพ แท้จะไม่สวยหรูนัก เมื่อเปิดบ้านแพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-1 ที่สนามเอติฮัด สเตเดี้ยม ในเกมรอบรองชนะเลิศ นัด 2 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา แต่สกอร์รวมเอาชนะไป 3-2 ทำให้พวกเขาผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศเป็น 3 สมัยติดต่อกัน โดยเข้าไปพบกับ แอสตัน วิลล่า ในวันที่ 1 มีนาคมนี้


 1) เป๊ปลองของ


หลังบุกชนะแมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมแรก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า หันมาเล่นแผนแปลกๆดูบ้าง ในระบบ 3-2-4-1 โดยใช้กองหลัง 3 ตัว

พวกเขาออกสตาร์ทชนิดที่เรียกว่ากด “ปีศาจแดง” เสียแทบโงหัวไม่ขึ้นโดยเฉพาะในครึ่งแรก ธรรมชาติของ กานเซโล่ กับ วอล์คเกอร์ ยิ่งทำให้พวกเขาได้เปรียบยามครอบครองบอลเมื่อเปิดเกมรุกเข้าใส่ ทั้งสองคนมั่นใจกับการเติมสูงมีส่วนร่วมกับการเซ็ตบอลแดนกลาง

การยืนตำแหน่งของ แบร์นาโด้ ซิลวา และ เควิน เดอ บรอยน์ ในพื้นที่ฮาล์ฟสเปซยิ่งทำให้ ซิตี้ โอเวอร์โหลดมีผู้เล่นเยอะกว่าทีมเยือนบริเวณริมเส้นจนสามารถสร้างโอกาสเกือบจะได้ประตูหลายต่อหลายครั้ง ยังดีที่ได้ เด เคอา ที่ช่วยเซฟไว้ทัน ก่อนที่จะถูกลูกผีจับยัดของ เนมานย่า มาติช กลายเป็นหมัดน็อค


2) มาติชยังช่วยทีมได้เยอะ


มาติช ที่ตอนแรกดูเหมือนว่าเขาจะหมดอนาคตกับทีมไปแล้ว แต่ในช่วงที่ผ่านมา โซลชา ยังคงมองว่าเจ้าตัวยังคงอยู่ในแผนการสร้างทีม เพราะประสบการณ์ ความเก๋าของ ดาวเตะเลือดเซิร์บ น่าจะช่วยประคับประครองแดนกลางของทีมได้เป็นอย่างดี

เกมนี้ มาติช สามารถสู้กับ แดนกลางของแมนฯ ซิตี้ ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญยังยิงประตูสุดท้ายให้ทีมขึ้นนำด้วย นอกจากนี้ อดีตดาวเตะเชลซี เล่นได้โดดเด่นไม่ว่าจะมีบอลหรือไม่มีบอลก็ตาม

น่าเสียดายที่ มาติช ต้องมีรอยด่างพร้อยในเกมนี้เมื่อไปทำฟาวล์ อิลคาย กุนโดกัน ในจังหวะที่ “เรือใบสีฟ้า” สวนกลับ ทำให้โดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดง


3) สเตอร์ลิง ขาดความเฉียบคม


ปีกความเร็วสูงผู้ดี ไม่สามารถส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายในเกมพบ “เร้ด เดวิลส์” 19 แมตช์ โดยย้อนไปถึงสมัยที่เขายังค้าแข้งกับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ด้วย ในแมตช์นี้ สเตอร์ลิง มีโอกาสที่จะทำลายสถิติที่น่าผิดหวังนี้ เมื่อได้ยิงประตูได้จากการส่งบอลของ เควิน เดอ บรอย์น แต่ดันเป็นลูกล้ำหน้า

นอกจากนี้ยังมีโอกาสทองฝังเพชรเมื่อเขาโชว์สเต็ปเทพในกรอบเขตโทษ พร้อมกับหลอกล่อ ดาบิด เด เคอา จนล้มกลิ้งไปแล้ว แต่ในจังหวะที่ยิงประตูดันตะบันเต็มแรง บอลเหินข้ามคานไปอย่างน่าเหลือเชื่อ

ดังนั้น ราฮีม ต้องเรียกความมั่นใจกลับคืนมาโดยเร็วที่สุด


4) เดเคอา เหนียวหนึบมาก


ก่อนหน้านี้ ดาบิด เด เคอา จะมีฟอร์มลุ่มๆ ดอนๆ ไปบ้าง แต่เขาก็ยังคงสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อทีมจำเป็นต้องการชัยชนะ อย่างเกมเมื่อคืนเขาก็โชว์ซุปเปอร์เซฟเป็นพัลวัน ไม่ว่าจากลูกโหม่งของ กุน อเกวโร่ หรือจังหวะยิงของ ดาบิด ซิลบา มีโอกาสเหน่งๆ แต่ยังดีที่ไม่เสียประตู เกมนี้ต้องขอบคุณเด เคอา เลย เพราะถ้าไม่ได้เขาช่วยไว้ ทีมอาจไม่ชนะในเกมสำคัญแบบนี้อย่างแน่นอน ที่เด็ดบอล

ถือเป็นฟอร์มที่สุดยอด และทำให้สาวก “เร้ด เดวิลส์” รู้สึกใจชื้นมากๆ เมื่อเห็นเขายืนเฝ้าเสา


5) ซิตี้ เข้าชิง 3 ปีติดต่อกัน


“เรือใบสีฟ้า” สามารถทะลุเข้าชิงรายการนี้ดิอีกครั้ง พวกเขาเป็นทีมที่สามที่สามารถเข้าชิง 3 สมัยติดต่อกันในการแข่งขัน ลีก คัพ (ชื่อเดิม) หลังจากที่ “หงส์แดง” เคยทำได้แล้ว (เข้าชิง 4 สมัยติดต่อกันระหว่างปี 1981-1984) และ น็อตติงแฮมป์ ฟอเรสต์ (1978-1980)

นัดชิงชนะเลิศพบกับแอสตัน วิลล่า ที่สนามเวมบลีย์ หากจะมองว่าง่ายก็ง่าย แต่จะว่ายากก็ยากเช่นกัน เพราะ “สิงห์ผงาด” ก็ต้องการความสำเร็จในรายการนี้เช่นกัน แม้พวกเขาอาจจะดูเป็นรอง แมนฯ ซิตี้ ก็ตาม แต่บอลชิงนัดเดียว อะไรก็ๆสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น




เรื่อง/เรียบเรียง : แมนคูเนี่ยน









ความคิดเห็น