25 ปีที่ผ่านไปกับเหตุการณ์โลกลูกหนังไม่เคยลืม นั่นคือการกระโดดถีบยอดออกแฟนบอลคริสตัล พาเลซของ เอริก คันโตน่า
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นำทัพแมนฯยูไนเต็ดบุกไปเซลเฮิร์สท์ พาร์คทำศึกพรีเมียร์ลีกกับคริสตัล พาเลซ เมื่อวันพุธที่ 25 มกราคม 1995 ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ
ด้วยชื่อชั้นและศักยภาพของปีศาจแดงในยุคนั้นที่กำลังพีกมากๆ ไม่ใช่เรื่องยากเกินกำลังที่จะกำราบเจ้าบ้านลงได้
แต่ เฟอร์กี้ รู้ดีว่าเกมนี้ “ดิ อีเกิ้ลส์” จะมาใช้เกมหนักเข้าสู้แน่ ลูกตุกติกบวกเข้าบอลไม่ยั้งสารพัด เป็นเอกลักษณ์ของทีมจากลอนดอนใต้ โดยเฉพาะเมื่อเจอบรรดาสโมสรใหญ่ๆ
ดังนั้นก่อนเริ่มเกม เฟอร์กี้จึงออกปากกำชับลูกทีมทุกคนว่า ถ้าโดนเล่นงานหนักให้มีสมาธิไว้ อย่าพยายามเอาคืน ต้องมุ่งมั่นกับการเล่นบอลเพื่อชัยชนะ ไม่ใช่คอยแต่หาโอกาสล้างแค้น
แล้วก็เป็นไปตามคาดเกมเริ่มไม่เท่าไร ริชาร์ด ชอว์ กับ คริส โคลแมน สองเซนเตอร์แบ็กของพาเลซเล่นหนักไม่ปรานี แต่ผู้ตัดสินแทบจะไม่ลงโทษอะไร ยิ่งทำให้ทั้งคู่ได้ใจหนักกว่าเก่า
ชอว์ ซึ่งปกติไม่ค่อยเกเรนัก แต่เกมนี้มักจะงัดทริกดึงเสื้ออยู่เสมอ เฟอร์กี้ เชื่อว่าต่อให้เล่นบอลสร้างสรรค์แค่ไหน เมื่อมาเจออย่างนี้ก็ต้องหงุดหงิดเป็นธรรมดา
ไม่ใช่แค่ดึงเสื้ออย่างเดียว แต่ ชอว์ ยังเสียบใส่ แอนดี้ โคล กับ เอริก คันโตน่า สองหัวหอกปีศาจแดงแบบน่าเกลียดถึง 3 ครั้งด้วยกัน
ในขณะที่ โคลแมน เจตนาชน โคล ตั้งแต่ตรงกลางสนาม แต่กลับไม่โดนลงโทษอะไรเลยสักนิดเดียว นั่นยิ่งเพิ่มความหงุดหงิดให้ผู้เล่นทีมเยือน
เฟอร์กี้ จึงพยายามแก้ไขสถานการณ์ จึงออกมาตะโกนบอกทุกคนที่ข้างสนามว่า อย่าปล่อยให้อารมณ์เตลิดเข้าทางคู่แข่ง ตั้งใจทำประตูให้ได้ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง
ช่วงพักครึ่งบรรยากาศในห้องแต่งตัวดูไม่ค่อยดีนัก เฟอร์กี้ มุ่งไปที่ คันโตน่า มากเป็นพิเศษ เตือนให้คุมอารมณ์มากสุดเท่าที่จะทำได้
“พวกนี้ต้องการกวนประสาทแก ถ้า ชอว์ ได้เข้าถึงตัวมากขึ้นบ่อยๆจะยิ่งได้ใจ ฉะนั้นได้บอลแล้วรีบจ่าย วิ่งทำทางอย่าให้โดนตัวเป็นอันขาด”
ครึ่งหลังเริ่มไปได้แค่ 4 นาที คันโตน่า นอตหลุดหันไปหวดใส่ ชอว์ คืนบ้าง แล้วผู้ตัดสินไม่คิดหรือชั่งใจอะไรสักนิดเดียว ควักใบแดงไล่ดาวเตะเฟร้นช์ทันที นี่คือใบแดงที่ห้าของ ก็องโต้ นับตั้งแต่เปลี่ยนมาสวมยูนิฟอร์มปีศาจแดง
เฟอร์กี้ สั่ง นอร์แมน เดวิส เจ้าหน้าดูแลเสื้อผ้าให้เดินไปเป็นเพื่อน คันโตน่าด้วย เพื่อคอยสงบสติอารมณ์ไว้ เพราะอาจโดนแฟนบอลเจ้าถิ่นด่าแบบหยาบคายได้
ระหว่างนั้นไม่ได้สนใจอะไรอีก ง่วนกับการแก้เกมว่าจะปรับเปลี่ยนผู้เล่นอย่างไร
ก็องโต้เดินออกจากสนามหลังโดนใบแดงผ่านอัฒจันทร์พร้อมนอร์แมน เดวิส ผู้จัดการชุดแข่งแมนฯ ยูไนเต็ด และยังไม่ทันถึงทางเข้าห้องเปลี่ยนเครื่องแต่งตัว..ที่เหลือคือเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ “กังฟูคิก สะท้านโลก” ราคาบอลไหล
ประโยคเด็ดของ แมทธิว ซิมมอนส์ คือ “Fuck off back to France you French mother fucker”
ซิมม่อนส์ โดนตัดสินจำคุก 7 วันและปรับอีก 500 ปอนด์ รวมทั้งห้ามเข้าสนามในอังกฤษและเวลส์เป็นเวลา 1 ปีเต็ม ด้วยข้อหายั่วยุให้เกิดความรุนแรง
ส่วนคันโตน่านั้น โดนแบนจนจบฤดูกาล และถูกปรับเงินด้วยค่าจ้างสองสัปดาห์ 10800 ปอนด์
การเสียคันโตน่าไปจากทีม เพราะโทษแบนครั้งนั้น ส่งผลกระทบต่อทีมอย่างมาก ซีซั่นนั้นปีศาจแดงเสียแชมป์พรีเมียร์ลีกให้แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ซึ่งแน่นอนถ้าก็องโต้ ไม่โดนแบน พวกเขาก็อาจจะคว้าแชมป์สมัยที่ 3 ติดต่อกันเป็นครั้งแรก
ทว่า..เขากลับมาในเดือนตุลาคม 19995 ถือเป็นจุดกระตุ้นให้แมนฯ ยูไนเต็ดเดินหน้าไปย่างยอดเยี่ยมพร้อมจบซีซั่นด้วย ดับเบิลแชมป์ โดยเฉพาะลูกยิงถอยหลังที่ชนะลิเวอร์พูลในเอฟเอ คัพ 1996
แม้จะผ่านมานานถึง 25 ปีแล้วแต่ไม่มีใครลืมเหตุการณ์ครั้งนั้น ซึ่งต้องบอกว่าเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก
คันโตน่า เคยให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เคยเสียใจในการกระทำครั้งเลยและน่าจะถีบให้หนักกว่าเดิมด้วยซ้ำ
“ผมเคยพูดไปแล้วว่าผมควรถีบเขาให้แรงกว่านี้ แต่บางทีพรุ่งนี้ผมอาจเปลี่ยนใจพูดอีกอย่างก็ได้”
“ผมไม่เคยเสียใจ มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม ผมคิดว่า ซิมมอนส์ สมควรที่จะได้เรียนรู้บ้างเช่นกัน”
สำหรับ คันโตน่า สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วย่อมดีเสมอ และลูกถีบในตำนานเป็นสิ่งที่จดจำและถูกเล่าขานไปอีกนานเลย
-แมนคูเนี่ยน-
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น