เกมลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ ระหว่าง เชลซี กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ โดยงานนี้ศึกยกแรกลูกศิษย์อย่าง แฟร้งค์ แลมพาร์ด จัดการปราบคุณครูอย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ ไปเรียบร้อย ชนะไปได้ 2-0 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนที่ผ่านมา
เกมนี้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด มีการปรับเปลี่ยนแผนการยืนมาเล่นเป็น 3-4-3 จากที่เกมก่อน ๆ ใช้ระบบ 4-3-3 มาโดยตลอด ซึ่งเกมนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ กุนซือซูเปอร์แฟรงค์ทดลองใช้แผนการนี้ในการรับมือคู่แข่งที่มีเกมรุกอันดุดันและอันตราย ซึ่งผลที่ออกมาคือมันได้ผลอย่างยอดเยี่ยมในเกมวันนี้ ทั้งแผงหลัง 3 คน ที่แพ็คกันแน่น
ทั้ง คูร์ท ซูม่า, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ และ ฟิคาโย่ โทโมริ จนแนวรุก สเปอร์ส ทั้งเดเล่ อัลลี่, ซน ฮึง-มิน, ลูคัส มูร่า และ แฮร์รี่ เคน ไม่สามารถทำอะไรได้เลย
แถมกองหน้า 3 คน ที่วันนี้ดัน เมสัน เมานท์ ขึ้นไปเล่นเป็นปีก ก็ทำหน้าที่สร้างสรรค์เกมให้ทีมได้อย่างยอดเยี่ยมไร้ที่ติ สิ่งเหล่านี้เป็นที่มาของ 3 คะแนนสำคัญของ ทัพสิงห์บลู ในศึก ลอนดอนดาร์บี้ ค่ำคืนวันนี้
1) แลมพาร์ด วางแผนมาได้ยอดเยี่ยม
เกมนี้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด มีการปรับเปลี่ยนแผนการยืนมาเล่นเป็น 3-4-3 จากที่เกมก่อน ๆ ใช้ระบบ 4-3-3 มาโดยตลอด ซึ่งเกมนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ กุนซือซูเปอร์แฟรงค์ ทดลองใช้แผนการนี้ในการรับมือคู่แข่งที่มีเกมรุกอันดุดันและอันตราย ซึ่งผลที่ออกมาคือมันได้ผลอย่างยอดเยี่ยมในเกมวันนี้ ทั้งแผงหลัง 3 คน ที่แพ็คกันแน่นทั้ง คูร์ท ซูม่า, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ และ ฟิคาโย่ โทโมริ
จนแนวรุก สเปอร์ส ทั้งเดเล่ อัลลี่, ซน ฮึง-มิน, ลูคัส มูร่า และ แฮร์รี่ เคน ไม่สามารถทำอะไรได้เลย แถมกองหน้า 3 คน ที่วันนี้ดัน เมสัน เมานท์ ขึ้นไปเล่นเป็นปีก ก็ทำหน้าที่สร้างสรรค์เกมให้ทีมได้อย่างยอดเยี่ยมไร้ที่ติ สิ่งเหล่านี้เป็นที่มาของ 3 คะแนนสำคัญของ ทัพสิงห์บลู ในศึก ลอนดอนดาร์บี้ ค่ำคืนวันนี้
2) วิลเลี่ยน โชว์ฟอร์มเทพ
หนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในเกมนี้ แน่นอนว่าหลายๆ คนต้องยกให้กับ วิลเลี่ยน ปีกชาวบราซิเลียนของเชลซี ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอด เขาแสดงให้เห็นถึงทักษะในการลากเลื่อยหลอกล่อแนวรับ สเปอร์ส จนหัวหมุน ก่อนที่จะลากตัดเข้ากลางในกรอบแล้วปั่นด้วยขวาบอลพุ่งเสียบเสาไกลอย่างงดงาม
ส่วนอีกประตูมาจากจังหวะจุดโทษช่วงนาที 45+3 โดยตลอดทั้งเกมเจ้าตัวยังทั้งจ่ายบอลสวย ๆ วิ่งลงไปช่วยเกมรับ ไล่บอลในแดนกลาง จนเรียกได้ว่าทำแทบจะทุกอย่างในเกมวันนี้เลยทีเดียว
แน่นอนว่าการขาด อาซาร์ ทำให้การขับเคลื่อนเกมรุกของ เชลซี อาจจะไม่หวือหวา แต่ตอนนี้ วิลเลี่ยน พยายามที่จะยกระดับตัวเองเพื่อที่จะทนทานการจากไปของ จอมทัพชาวเบลเยียม
3) VAR ตัดสินได้ดีอีกครั้ง
หลายๆเกมที่ระบบวีเออาร์ มักจะตัดสินไม่ค่อยยุติธรรมจนเกิดความสงสัยว่าดีจริงหรือไม่ แต่สำหรับเกมนี้ต้องยกเครดิตให้กับวีดิโอช่วยตัดสินจริงๆ เพราะมีหลายจังหวะที่ทำให้การแข่งขันในเกมนี้มีความบริสุทธิ์ยุติธรรม และส่งผลให้เกิดจุดเปลี่ยนที่ถูกต้องและเหมาะสม
อย่างจังหวะแรก การเข้าบอลแบบทะเล่อทะล่าของ กัซซานิก้า ที่โชว์ลีลากังฟูคิกใส่ มาร์กอส อลอนโซ่ ในตอนแรก เทย์เลอร์ท่านเปาประจำเกมเป่าให้เป็นจังหวะฟาวล์ของผู้เล่นเกมรุกก่อน แต่เมื่อมีการเช็ค “วีเออาร์” ก็เปลี่ยนคำตัดสินเป็นการให้จุดโทษ
รวมไปถึงจังหวะการแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมของ ซน ฮึง มิน โดยในตอนแรกดูเหมือนแค่ ดาวเตะเกาหลีใต้ ล้มลงไปธรรมดาๆ แต่เมื่อมีการเช็ค “วีเออาร์” แล้วแสดงให้เห็นว่า “ซอนนี่” พยายามถีบใส่ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ด้วยเหตุนี้ทำให้ท่านเปาควักใบแดงไล่ออกทันที
4) ความผิดพลาดมหันต์ของ กัซซานิก้า
เรื่องนี้คงไม่เกิดขึ้นหากเป็น อูโก้ โยริส หรือนายทวารคนอื่นๆ ที่ทำหน้าที่เฝ้าเสา เพราะเมื่อมองจากจังหวะที่ กัซซานิก้า พยายามวิ่งออกมาเพื่อเตะบอลแต่ดันวืดและการเป็นการยกเท้าสูงขวางการเล่นของ อลอนโซ่ นั่นเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ที่ แอนโธนี่ เทย์เลอร์ จะต้องเช็กกับห้องควบคุม “วีเออาร์” ก่อนจะตัดสินให้จุดโทษ ทีเด็ด บอล
แน่นอนว่าโกลที่ดีไม่ควรที่จะเข้าบอลผิดพลาดแบบนั้น แถมในจังหวะสำคัญขนาดนี้อาจจะทำให้ทีมเสียเปรียบมากยิ่งขึ้นหลายเท่า คำถามก็คือทำไม กัซซานิก้า ถึงเลือกที่จะกระโดดกังฟูคิกแบบนั้นแทนที่จะพุ่งใช้มือคว้าบอล ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้รักษาประตูทำได้ แต่เขาเลือกที่ทำจังหวะแบบนั้นไปทำไมกัน
5) สปอร์สหัวร้อน
แมตช์นี้ดูเหมือนนักเตะสเปอร์ส จะสติหลุดหลังจากเกมผ่านไปราวๆ 1 ชั่วโมง และนำไปสู่ความเสียหายอย่างมาก
เริ่มตั้งแต่ ซน ฮึง มิน ที่ไม่รู้ว่าเกิดสติหลุดได้ยังไงเมื่อดันเจตนาใช้สตั๊ดถีบใส่ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ช่วงที่เจ้าตัวล้มลง แน่นอนว่ามันอาจจะไม่ใช่จังหวะที่รุนแรง แต่เจตนาที่ทำถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงความไร้น้ำใจนักกีฬา และนำไปสู่การโดนใบแดงไล่ออกไปโดยปริยาย
นับเป็นบทเรียนสำหรับ ซน ที่การระบายอารมณ์ของเจ้าตัวส่งผลเสียจนทำให้ทีมไม่สามารถสร้างจุดเปลี่ยนได้ยามสกอร์ตามหลังคู่ต่อสู้ถึง 2 ประตู
จากเหตุดังกล่าว นำไปสู่การจุดประกายความโกรธเคืองของบรรดาแฟนคลับ “ไก่” ที่จ้องเล่นงาน ปราการหลังทีมชาติเยอรมัน มีแฟนบอลเจ้าถิ่นบางส่วนเหยียดผิวใส่ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ แข้งของ สิงห์บลู จนโฆษกสนามต้องประกาศให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าวถึง 3 ครั้ง
จากเหตุการณ์นี้ทำให้มีการประกาศภายในสนามท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม และจากนั้นก็ยังเกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก 2 ครั้ง ยังไม่หมดแค่นั้นเพราะแฟนสเปอร์ส ยังโชว์ความโหดดิบเถื่อนด้วยการขว้างปาสิ่งขวดน้ำใส่ เกปา อาร์ริซาบาลาก้า นายทวารทีมเยือนด้วย
งานนี้บอกเลยว่าไม่จบง่ายๆ และ สเปอร์ส มีสิทธิ์ที่จะโดนบทลงโทษหนักจากสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) แน่นอน
เรื่อง : แมนคูเนี่ยน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น