ฆาบี กราเซีย คือกุนซือคนแรกที่ตกงานในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ต่อมาหวยก็ออกที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่
เวลานี้จะมีใครที่เก้าอี้ร้อน และกราฟดิ่งลงรวดเร็วเหมือนกับ มาร์โก ซิลวา ที่ เอฟเวอร์ตัน หรือไม่
ทอฟฟี่จมอยู่ที่อันดับ 15 ของตารางด้วยความพ่ายแพ้อย่างหมดสภาพคาถิ่นกูดิสัน พาร์ค ให้กับทีมบ๊วยอย่าง นอริช เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะที่ทีมอย่าง เชฟฯ ยูไนเต็ด, เบิร์นลี่ย์ และ ไบรท์ตัน อันดับสูงกว่าพวกเขาเสียอีก
แม้ อูไน เอเมรี่, มานูเอล เปเยกรินี่ หรือกระทั่ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เก้าอี้เริ่มสั่นคลอนบ้างแล้วกับสถานการณ์ของพวกเขาอยู่ แต่กับของ ซิลวา นั้นเริ่มร้อนฉ่าใกล้ทะลุเดือดแล้ว
หลายข้อสงสัยเริ่มพุ่งเข้ามายังตัว ซิลวา ว่าเขาเก่งเหมือนโปรไฟล์อันสวยหรูจริงหรือ ??
ตอนที่เก็บย้ายเข้าของมายังอังกฤษในเดือนมกราคม ปี 2017 เมื่อรับงานแทน ไมค์ ฟีแลน ที่ ฮัลล์ ซิตี้ เขาไม่ได้เป็นที่รู้จักสำหรับแฟนบอลมากนัก
จากที่เห็นก็คือ เขาดูหนุ่ม, น่าตื่นเต้น, หล่อเหลา และมีประวัติโดยย่อที่น่าสนใจกับการนำสโมสรคว้าแชมป์ลีกโปรตุเกส และที่กรีซมาแล้ว
ซิลวา ได้รับมอบหมายให้มานั่งหัวเจ้าเสือน้อยที่สภาพร่อแร่ใกล้เคียงต่อการตกชั้นจากลีกสูงสุดเต็มที
แต่ในช่วงหลายเดือนนับจากนั้น เขาเกือบที่จะทำภารกิจที่เป็นไปไม่ได้สำเร็จด้วยการพาทีมที่หลายคนมองว่าหมดสภาพเก็บชัย 6 นัดระหว่างเดือนมกราคมถึงเมษายน ซึ่งก็รวมถึงนัดเอาชนะ ลิเวอร์พูล 2-0 ด้วย
ผลงานที่โดดเด่นช่วงนั้นยังรวมถึงชัยชนะเหนือ แมนฯ ยูไนเต็ด ในลีก คัพ และเปลี่ยนให้ถิ่นเคคอม สเตเดี้ยม ของ ฮัลล์ กลายเป็นป้อมปราการ เมื่อมีสถิติไร้พ่าย 7 เกมเหย้า ก่อนจะสิ้นสุดลงในนัดที่ 8 เมื่อพ่ายแพ้ให้กับ ซันเดอร์แลนด์
จากนั้น ชื่อของ ซิลวา ถูกยกไปเปรียบเทียบกับ โชเซ่ มูรินโญ่ อย่างรวดเร็วโดยบรรดาสื่อมวลชนกับการที่เขาเป็นคนหนุ่มจากโปรตุเกสในอังกฤษ พร้อมทั้งเคยประสบความสำเร็จอย่างสูงมาแล้วกับทั้ง เอสโตริล และ สปอร์ติ้ง ลิสบอน
เขากลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากในวงการลูกหนังเมืองผู้ดี และก็กลายเป็นหนึ่งในกุนซือที่หลายทีมในพรีเมียร์ลีกต้องการมากที่สุด เมื่อแยกทางกับ ฮัลล์ ซิตี้ หลังเจ้าเสือน้อยต้องตกชั้น
อาร์เซน่อล เคยถูกนำไปเชื่อมโยงกับเขา ส่วน คริสตัล พาเลซ นั้นก็ด้วย แต่สุดท้ายกลับเป็น วัตฟอร์ด ที่ได้ตัวเขาไป
แต่คราวนี้อะไรต่างๆ กลับไม่เป็นใจ และ ซิลวา ก็โดนแตนอาละวาดไล่ออก!
หลังจากนั้นไม่กี่เดือน เขาก็ถูกแต่งตั้งให้มาคุมทัพ เอฟเวอร์ตัน ซึ่งเป็นงานที่ 3 ของเขาในเมืองผู้ดีจากช่วงเวลาไม่ถึง 2 ปี แน่นอนว่า ซิลวา ถูกคาดหวังจากทอฟฟี่ว่าต้องท้าทายพวกกลุ่มท็อปซิกซ์ให้ได้ ซึ่งพวกเขาก็ต่อสู้มาตั้งแต่ยุคของ เดวิด มอยส์ แล้ว
เอฟเวอร์ตัน จบฤดูกาล 2018-19 ด้วยชัยชนะ 5 นัด รวมถึงคลีนชีตอีก 6 ครั้งจาก 8 เกมสุดท้าย พร้อมด้วยไฮไลท์อันน่าประทับใจในเกมชนะ เชลซี, อาร์เซน่อล รวมถึงถล่ม แมนฯ ยูไนเต็ด 4-0 ซึ่งถือเป็นชัยชนะเหนือผีแดงขาดที่สุดในรอบ 35 ปี
แม้การสูญเสีย อิสดริสซ่า เกย์ และ เคิร์ท ซูม่า จะเหมือนระเบิดก้อนใหญ่ แต่จากการเสริมทัพของพวกเขาก็ยังทำให้ทุกสายตามองไปในแง่บวก
กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน ยังคงเป็นหนึ่งในตัวสร้างสรรค์เกมอันดับต้นๆ ของลีก ขณะที่ ไมเคิ่ล คีน ก็กำลังพัฒนาขึ้นมา อีกทั้งการเซ็นสัญญากับ มอยส์ คีน มาจาก ยูเวนตุส ทำให้หลายทีมทั่วยุโรปต่างพากันอิจฉาตาร้อน
แต่ดูผลงานทอฟฟี่กำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้สิ…เหมือนทีมตกชั้นเข้าไปแล้ว
การแพ้ไปแล้ว 7 จาก 13 เกมแรกทำให้พวกเขามีแต้มเหนือโซนตกชั้นเพียง 4 คะแนนเท่านั้น
หากเรามองกันอย่างเป็นธรรม ซิลวา เองก็ไม่ได้มีผลงานอะไรที่ดีไปกว่า โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ, โรนัลด์ คูมัน และ แซม อัลลาร์ไดซ์ ที่อยู่มาก่อนหน้าเขาเลย
ถึงเราจะเห็น หรือได้ยินมาว่าโปรไฟล์ของเขาสวยหรูมากเพียงใด แต่จนถึงตอนนี้ ซิลวา ก็ยังไม่เห็นจะมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันในพรีเมียร์ลีกเลย
หลังที่จบเกมพ่ายนกขมิ้นเหลืองอ่อนเมื่อวันเสาร์ เริ่มมี ‘Sacked in the Morning’ ถือเป็นส่งสัญญาณว่าเวลาของเขาใกล้หมดลงแล้ว
-แมนคูเนี่ยน-
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น