คุณชายอลอนโซ่

ในวงการฟุตบอลมีหลายครอบครัวที่เป็นตระกูลฟุตบอลขนานแท้ สืบทอดเส้นทางกันมาตั้งแต่รุ่นสู่รุ่น ซึ่งตระกูลนักฟุตบอล “อลอนโซ่” แห่งสเปน เป็นหนึ่งในตระกูลนั้นรวมอยู่ด้วยที่อย่างเช่นทายาทมาดคุณชาย “ชาบี้ อลอนโซ่”

ชาบี อลอนโซ่ โอลาโน หรือ แฟนบอลรู้จักกันในนาม ชาบี อลอนโซ่ คุณชายแห่งวงการลูกหนัง เนื่องจากว่าตอนที่เล่นให้กับ ลิเวอร์พูล เขามีลักษณะท่าทางในการเล่นฟุตบอลที่ดูแบบเนี๊ยบๆ มีการเคลื่อนที่ลักษณะท่าทางดูคล้ายๆ กับ คุณชาย ไม่ว่าจะเป็นการออกบอล การจับบอล หรือแม้แต่เปิดบอล จนทำให้สื่อต่างๆ พากันตั้งฉายาให้เขาว่า “คุณชาย”

อลอนโซ่ เกิดเมื่อ 25 พฤศจิกายน ค.ศ. 1981 ทายาทของตระกูลนักฟุตบอลอลอนโซ่ ซึ่งสืบสายเลือดมาจากบิดา เปริโก้ อลอนโซ่ อดีตสตาร์ดังของบาร์เซโลน่า และเรอัล โซเซียดาด ในยุคปี 80 ซึ่งทีมหลังกลายเป็นสโมสรที่เป็นรากฐานชีวิตให้กับตระกูลอลอนโซ่รุ่นหลังไปด้วย

เริ่มต้นชีวิตนักฟุตบอลอาชีพกับทีม เรอัล โซเซียดาด จากนั้นก็ถูกส่งตัวไปให้ เออิบาร์ ยืมตัวระยะเวลาสั้นๆ ในลีกรอง ก่อนจะกลับมาในฤดูกาล 2002-03 พร้อมกับพาทีมคว้ารองแชมป์ ลาลีกา สเปน หลังจบซีซั่นนั้น

พรสวรรค์ของอลอนโซ่ เปล่งประกายในแดนกลางของโซเซียดาด จากสไตล์การเล่นอันเป็นเอกลักษณ์โดยเฉพาะจินตนาการในการสร้างสรรค์เกมรุกให้กับโซเซียดาดด้วยการวางบอลที่แม่นยำราวจับวาง

ถัดมาในปี 2004 เกิดจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของลอนโซ่อีกครั้ง เมื่อเขาได้ย้ายไปร่วมทัพ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 10.5 ล้านปอนด์ โดยมี ราฟาเอล เบนิเตซ ยอดกุนซือชาวสเปน คุมทีมอยู่ในเวลานั้น

ที่แอนฟิลด์ อลอนโซ่ สามารถแจ้งเกิดในฐานะจอมทัพคนสำคัญในแดนกลางเสริมทีมโดยได้จับคู่กับสตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันแห่งแอนฟิลด์และกลายเป็นคู่หูกองกลางที่ดีที่สุดคู่หนึ่งของพรีเมียร์ชิพในเวลาไม่นานนัก

การวางบอลยาวที่แม่นยำราวจับวางและการยิงไกลที่หวังผลได้รวมถึงลูกฟรีคิกระยะอันตรายที่ปล่อยผ่านไม่ได้ ทำให้อลอนโซ่ ได้รับการยอมรับจากแฟนๆและบรรดากูรูลูกหนังในเมืองผู้ดีอย่างรวดเร็ว ถึงขั้นที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองกลางที่เก่งที่สุดในยุโรปของยุคนี้เลยทีเดียว

เพียงแค่ฤดูกาลแรกที่เข้ามา เขาก็ช่วยให้ เดอะ เร้ด คว้าถ้วย ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก ได้เป็นสมัยที่ 5 ของสโมสร ซึ่งอลอนโซ่ เป็นคนทำประตูตีเสมอ 3-3 ให้ทีมได้ในช่วงต้นครึ่งหลังได้ด้วย

อลอนโซ่ กลายเป็นกองกลางคนสำคัญที่ขาดไม่ได้ของลิเวอร์พูล ถึงขั้นที่มีการบอกว่าลิเวอร์พูลจะขาดเจอร์ราร์ดก็ได้ไม่เป็นไรแต่ขาดอลอนโซ่ไม่ได้เด็ดขาดเลยทีเดียว

ขณะที่ซีซั่นถัดมาเขาก็สามารถพาทีมคว้าแชมป์ คอมมูนิตี้ชิลด์ กับ แชมป์ เอฟเอคัฟ แต่หลังจากซีซั่นนั้น อลอนโซ่ ก็ไม่สามารถพาหงส์แดงคว้าแชมป์ใดๆ ได้อีกเลย โดยเขาลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล ไปทั้งหมด 210 นัด ยิงได้ 19 ประตู ตลอด 5 ฤดูกาลที่ค้าแข้งอยู่ในถิ่นแอนฟิลด์

ก่อนที่ฤดูกาล 2009-10 ทีม “เดอะ ค็อป” ตัดสินใจขาย อลอนโซ่ ไปให้กับ เรอัล มาดริด ในราคา 30 ล้านปอนด์ เมื่อไม่มี อลอนโซ่ ลิเวอร์พูล ก็กลายเป็นหงส์ปีกหักฟอร์มออกทะเลไปเลยในซีซั่นนั้น แต่กลับกันสำหรับ อลอนโซ่ เขามีชื่อติดทีมชาติสเปนชุดลุยฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ พร้อมกับมีส่วนช่วยให้ประเทศบ้านเกิดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาครองได้เป็นสมัยแรกได้อีกด้วย

ภายในเวลา 6 ฤดูกาลที่ค้าแข้งอยู่ในถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาบิว อลอนโซ่ สามารถคว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ 2 สมัย คว้าแชมป์ ลาลีกา, ซุเปอร์ โกปา เด เอสปัญญา และ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก ได้อย่างละ 1 สมัย ราคาบอล

จากนั้นในปี 2014 หลังจบฟุตบอลโลกที่ประเทศบราซิล อลอนโซ่ ก็ประกาศเลิกเล่นทีมชาติ ก่อนย้ายไปซบตัก เสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค ในสัญญา 2 ปี แต่ด้วยความสามารถในการคุมจังหวะเกมของเขา จังหวะไหนควรดึงจังหวะไหนควรโยน

ทำให้ คาร์โล อันเชล็อตติ  ที่มาคุม บาเยิร์น แทน เป๊ป อยู่ในขณะนั้น ไม่รอช้าที่จะจัดการขยายสัญญากับดาวเตะรายนี้ออกไปอีก 1 ปี เพราะด้วยประสบการณ์ของเขา แน่นอนว่าสามารถช่วยประคองเพื่อนภายในทีมได้

ซึ่งหลังจากจบซีซั่นนั้น ซาบี อลอนโซ่ ก็ตัดสินใจแขวนสตั๊ดในวัย 35 กะรัต เขาเป็นนักเตะที่มีคุณสมบัติที่กองกลางควรจะมีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น เทคนิค การจ่ายบอล การเปิดบอลยาวสั้น เขาสามารถคอนโทรลและคุมจังหวะเกมได้ด้วยตัวเอง

ตอนนี้อลอนโซ่ได้กลับไปที่บ้านเกิดสเปน พร้อมกับก้าวใหม่กับงานกุนซือโดยคุมทีม เรอัล โซเซียดาด ซึ่งเป็นสโมสรบ้านเกิดของตัวเอง โดยคุมทีมสำรอง ลงร่วมแข่งขันเซกุนด้าบีของสเปน

อลอนโซ่ในบทบาทใหม่กับการเป็นโค้ช จะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น เวลาเท่านั้นจะเป็นเครื่องพิสูจน์

-แมนคูเนี่ยน-