จีนกับเจ้าฟุตบอลสโมสรโลก 2021ในรูปแบบใหม่


การก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าภาพฟุตบอลสโมสรโลกของจีน ในปี 2021 ไม่ใช่แค่การย้ายที่จัดการแข่งขันเหมือนหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมาเท่านั้น แต่มันคือการเปลี่ยนฟอร์แมตการแข่งขัน ท่ามกลางปัญหามากมายที่เกิดขึ้นตามมา แต่นี่คือ ก้าวแรก ของพัฒนาการในการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลรายการใหญ่ของทวีปเอเชีย ด้วย

ฟุตบอลสโมสรโลกในปี 2021 จะย้ายช่วงเวลาการแข่งขัน จากเดือนธันวาคม มาเตะในช่วงปิดฤดูกาลในเดือนมิถุนายน และเว้นระยะแข่งกันในทุกๆ 4 ปี และมีแนวคิดจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการแข่งขัน จากเดิมที่เอาแชมป์จากแต่ละทวีปมาเล่นกันแค่ 7 ทีม แต่จะเล่นกันเป็นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ถึง 24 ทีม

สโมสรโลกรูปแบบใหม่จะมีทีมเข้าร่วม 24 ทีม แบ่งสรรปันส่วนโควตาตามทวีป โดยยุโรปได้ 8 ที่, อเมริกาใต้ 6 และทวีปอื่นๆ ที่เหลือทวีปละประมาณ 3 ที่

แต่แนวคิดเหล่านี้มีความเห็นดีเห็นงามมาจากทางฝั่ง ฟีฟ่า เพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น ทางฝั่งสมาคมสโมสรฟุตบอลยุโรปที่มีแกนนำเป็นสโมสรใหญ่ ๆ ทั่วยุโรป เป็นแกนนำทั้ง เชลซี, แมนฯ ยูไนเต็ด, ยูเวนตุส 
และ เอซี มิลาน เป็นแกนนำ ล้วนแต่ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจครั้งนี้ของฟีฟ่า เพราะว่า นี่จะเป็นการเพิ่งภาระ และ โปรแกรมการแข่งขันโดยใช่เหตุ

นั่นไม่ใช่เพียงปัญหาเดียวกับการจัดการแข่งขันฟุตบอลสโมสรโลกที่จีนเท่านั้น แต่มันยังมีเรื่องของการต่อต้านจากองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน ที่มองว่านี่เป็นการให้ความสนับสนุนจีน จากเหตุการณ์การชมนุมที่ฮ่องกงด้วย แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่เราอยากจะพูดถึงในบทความนี้มากนัก เพราะสุดท้ายแล้ว ถ้าสโมสรยุโรปตัดสินใจบอยคอตต์จริง ๆ ฟุตบอลสโมสรโลกที่ไม่มีทีมจาก ยูฟ่า เข้าร่วม จะว่าเป็นรายการใหญ่ก็คงไม่ถูกนัก

แต่ที่น่าสนใจคือ นี่คือการบ่งบอกถึงศักยภาพที่มากเพียงพอที่จะจัดการแข่งขันฟุตบอลรายการใหญ่ ๆ นับตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2002 ที่ญี่ปุ่นและเกาหลี เมื่อเกือบ 20 ปีก่อน เพราะการขยายการเล่นจาก 7 เป็น 20 ทีม และเล่นแบบทัวร์นาเมนต์ใหญ่ นั่นหมายความว่าจำนวนเกมที่เตะ จำนวนสนามที่ใช้ จะเพิ่มขึ้นมากและต้องใช้ความพร้อมในการจัดการแข่งขันอย่างมหาศาล

ความพร้อมในการจัดการแข่งขันฟุตบอลในเอเชียพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่แค่ชาติมหาอำนาจอย่าง จีน, ญี่ปุ่น, เกสหลีใต้ หรือ กาตาร์ เท่านั้น แต่มันยังรวมถึงในชาติอาเซียนด้วย เพราะทาง อินโดนีเซีย เอง ก็ได้รับเลือกจาก ฟีฟ่า ให้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลเยาวชน 20 ปี ชิงแชมป์โลกในปี 2021 ด้วย

หากมองไปในประเทศแถบอาเซียน ถึงแม้ว่าในแง่เศรษฐกิจ และ สังคม สิงคโปร์, เวียดนาม และ ไทย จะเป็นประเทศระดับแนวหน้าของภูมิภาคในแง่นั้น แต่ถ้าเป็นเรื่องของฟุตบอล และ ความพร้อมแล้ว ต้องยอมรับว่า อินโดนีเซีย เป็นประเทศที่มีความพร้อมที่สุด พวกเขามีสนามที่มีความพร้อมซึ่งมีความจุอย่างต่ำ 20,000 ที่นั่งถึง 10 สนาม ขณะที่ประเทศไทย มีสนามที่มีมาตรฐานเพียงพอแค่ 4 สนามเท่านั้น ทีเด็ดบอลชุด

การขอเป็นเจ้าภาพฟุตบอล เยาวชน 20 ปี ชิงแชมป์โลก 2021 จึงเป็นเวทีสำคัญที่ทำให้ อินโดฯ ได้ลองวัดศักยภาพของตัวเองในการบริหารจัดการทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ๆ เพราะถึงแม้จะเป็นฟุตบอลระดับเยาวชน แต่นี่คือการชิงแชมป์ระดับโลก และมีชาติที่จะผ่านการคัดเลือกมาแข่งขันถึง 24 ทีมด้วยกัน

การลองสนามครั้งนี้ ไม่ได้แค่วัดศักยภาพของพวกเขาเองเท่านั้น แต่นี่มันคือการพิสูจน์ให้โลกเห็นว่าพวกเขาพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2034 ที่พวกเขาหมายมั่นปั้นมือที่จะเป็นเจ้าภาพให้ได้ ไม่ว่าจะต้องร่วมงานกับ ออสเตรเลีย, มาเลเซีย หรือ ไทยก็ตาม

นอกจากนั้นแล้ว มันยังพิสูจน์ให้เห็นว่า ชาติเอเชีย แม้จะยังไม่ได้แข็งมากในเวทีฟุตบอลโลก 
แต่พวกเขาก็มีศักยภาพในการพัฒนาขึ้นมา ไม่ใช่ในแง่ของการจัดการแข่งขันเท่านั้น






เมื่อได้เห็น ได้รับชม ได้มีส่วนร่วมมีโอกาสกับการแข่งขันในระดับสูงแบบนี้ ย่อมมีโอกาสในการพัฒนาของวงการฟุตบอลของเอเชียจะก้าวหน้าเติบโตในอนาคตได้เช่นกัน






-แมนคูเนี่ยน-











ความคิดเห็น