5 ข้อ เลสเตอร์ โชว์โหดถลุงนิวคาสเซิ่ล

เลสเตอร์ ซิตี้ ทำผลงานได้อย่างสุดยอด โดยในเกมล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา เปิดบ้านไล่ถล่ม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 5-0 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทำให้ตอนนี้พวกเขาพุ่งขึ้นไปอยู่ในอันดับ 3 ของตารางลีกเรียบร้อยแล้ว

“เดอะ ฟ็อกซ์” เล่นได้อย่างไหลลื่นภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่สร้างทีมให้เน้นการต่อบอลบนพื้น และหาช่องเจาะเข้าไปทำลายแนวรับคู่แข่ง ที่สำคัญเกมนี้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ต้องเจอกับจุดเปลี่ยนในช่วงท้ายครึ่งแรกที่ต้องเสีย ไอแซ็ค เฮย์เด้น จากการถูกท่านเปาแจกใบแดงไล่ออก

ในส่วนของเกมรุก เจมี่ วาร์ดี้ ยังคงเชื่อใจได้ในการทำประตู ขณะที่เกมรับก็เล่นได้อย่างเหนียวแน่น

1) เปเรยร่า เล่นดีทั้งรุกและรับ

เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เป็นแบ็กขวาที่มีฟอร์มการเล่นดีในพรีเมียร์ ตอนนี้ มากกว่า ริคาร์โด้ เปเรยร่า หรือเปล่า? บอกเลยว่าไม่ใช่แน่นอน เพราะตอนนี้หากมองแบบเป็นกลางทั้งสองคนเป็นผู้เล่นในตำแหน่งนี้ที่ฟอร์มฮอตที่สุดจริงๆ

ก่อนหน้านี้มีแต่คนเปรียบเทียบผลงานของ อารอน วาน-บิสซาก้า กับ “เจ้าหนูเทรนต์”แต่ตอนนี้มี ริคาร์โด้ เปเรยร่า เพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งคนแล้ว

ผลงานของ ดาวเตะชาวโปรตุกีส โดดเด่นมากในเกมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทั้งขึ้นลงทางกราบขวาโดยไม่มีอาการเหน็ดเหนื่อย ทั้งเติมเกมบุกและเกมรับก็ได้เล่นเหนียวแน่นไม่มีขาดตกบกพร่องเลย ถือเป็นฟลูแบ็กที่ครบเครื่องคนหนึ่งสุดๆในพรีเมียร์เวลานี้

2) เฮย์เด้น โหดเกินเหตุ

นิวคาสเซิ่ล มักจะเจองานยากเสมอในการบุกเยือนคิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม แถมในเวลานี้ “เดอะ ฟ็อกซ์” อยู่ในช่วงฟอร์มเข้าฝัก และกำลังมีลุ้นติดท็อปโฟร์ในตารางลีกสูงสุดเมืองผู้ดี ขณะที่ “สาลิกาดง” ต้องพยายามเก็บแต้มให้ได้เพื่อดิ้นรนหลุดจากโซนตกชั้น

อย่างไรก็ตามผู้มาเยือนต้องพบกับความยากลำบากในช่วงก่อนพักครึ่ง เมื่อทีมต้องเสีย ไอแซ็ค เฮย์เด้น 

จากการกระทำของตัวเองที่กระโดดเปิดปุ่มสตั๊ดเข้าเสียบ เดนนิส ปราต อย่างน่าเกลียด จนถูก เคร็ก พอว์สัน ชูใบแดงไล่ออกไปทันที นั่นคือจุดหักเหแห่งหายนะสำหรับทีมของกุนซือสตีฟ บรูซ

แน่นอนว่าการเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนย่อมเป็นเรื่องยากในการเปิดเกมบุกเพื่อทำประตู แถมครึ่งหลัง ร็อดเจอร์ส มีการปรับหมากมาเน้นสวนกลับ ยิ่งทำให้ “เดอะ แม็กพายส์” เสียกระบวนและโดนถลุงแหลกแหกด่านอย่างที่เห็น

3) เลสเตอร์ เล่นได้ไหลลื่น

ต้องบอกว่าสไตล์การเล่นของ “เดอะ ฟ็อกซ์” ในเวลานี้ควรยกเครดิตให้กับ ร็อดเจอร์ส อย่างแท้จริง เขาทำให้แฟนบอลของทีมคลายข้อสงสัยจนหมดสิ้น เมื่อสามารถทำต้นสังกัดเก็บชัยชนะได้อย่างยอดเยี่ยม 10 เกมและแพ้แค่ 4 แมตช์จาก 19 เกมที่กุมบังเหียนเลสเตอร์

ทุกๆ ตำแหน่งในสนามจะเห็นได้ว่านักเตะเลสเตอร์ เล่นกันได้อย่างเข้าขาลงตัวจริงๆ ยูริ ตีเลอมันส์ โชว์พรสวรรค์อย่างน่าเหลือเชื่อในการครองบอล, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ แข็งแกร่งในแผงมิดฟิลด์ 

ขณะที่ เปเรยร่า กับ เบน ชิลเวลล์ เล่นได้อย่างสุดยอดและน่าจะเป็นคู่ฟูลแบ็กที่ดีที่สุดอันดับ 2 ในพรีเมียร์ลีก ส่วน เจมี่ วาร์ดี้ ยังคงเฉียบคมในการทำประตูเหมือนเดิม

แม้ว่าอาจจะยังอยู่ในช่วงต้นฤดูกาล 2019/20 เท่านั้น แต่เลสเตอร์เป็นทีมที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมมากๆ 

และมีแค่สองสโมสรเท่านั้นที่อยู่เหนือกว่าพวกเขา (ลิเวอร์พูล กับ แมนฯ ซิตี้) ฉะนั้นการได้ตั๋วเพื่อไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก น่าจะเป็นเป้าหมายหลักของพวกเขา

4) วาร์ดี้ ยังเฉียบคมเหมือนเดิม

 

เจมี่ วาร์ดี้ ซัดสองประตูในเกมสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และเป็นประตูที่ 5 จาก 7 เกมในฤดูกาลนี้ และเป็นประตูที่สิบในถิ่นคิง พาวเวอร์ ในปี 2019 ที่สำคัญไปกว่านั้นทั้งสองประตูที่ วาร์ดี้ ทำได้มันเป็นจังหวะการส่งบอกเข้าไปซุกก้นตาข่ายในสไตล์ดั่งเดิมของ ดาวเตะเลือดผู้ดี อย่างแท้จริง

แม้ อายุ 32 ปีแล้วก็ตาท แต่เขายังคงเล่นเหมือนเด็กวัยหนุ่มอยู่เลย สปีดเร็วจี๊ดจ๊าด และเฉียบคมไม่เปลี่ยนแปลง จะเห็นได้ชัดว่าแนวรับในลีกเมืองผู้ดียากจะจัดการเจ้าตัวในระยะ 10 หลา

และทันทีที่เขามีโอกาสได้วิ่งสปรินท์แน่นอนว่ากองหลังยากจะไล่บี้ทัน จากนั้น วาร์ดี้ จะโชว์สัญชาตญาณการจบประตูให้เห็น ทีเด็ดบอลชุด

5) สถิติน่าสนใจ

– เลสเตอร์ ชนะ นิวคาสเซิ่ล ด้วยสกอร์เยอะที่สุดในการเล่นเกมลีกสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 1987 ตอนนั้นพวกเขาชนะ เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ 6-1

– นับตั้งแต่ที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุมบังเหียนเกมแรกในเดือนมีนาคม “เดอะ ฟ็อกซ์” เก็บได้ 31 คะแนนในพรีเมียร์ลีก โดยมีแค่ ลิเวอร์พูล (49 คะแนน) กับ แมนฯ ซิตี้ (43 คะแนน) ทำแต้มได้มากกว่าจากช่วงระยะเวลาเดียวกัน

-นี่เป็นความพ่ายแพ้เละเทะของ สตีฟ บรูซ ในฐานะผู้จัดการทีมเกมพรีเมียร์ลีก อีกครั้งโดยก่อนหน้านี้เขานำทีมแพ้ เชลซี 2-7 เมื่อเดือนมกราคม 2010 และ แมนฯ ซิตี้ 0-5 เมื่อเดือนเมษายน 2011 ซึ่งเกิดขึ้นตอนคุมทัพ “แมวดำ” ซันเดอร์แลนด์

– เจมี่ วาร์ดี้ ซัดไปแล้ว 10 ประตูในพรีเมียร์ลีกที่สนามคิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม ในปี 2019 มีแค่ 2 คนเท่านั้นที่ทำได้เหนือกว่าในช่วงระยะเวลาเดียวกันได้แก่ ซาดิโอ มาเน่ (14 ประตูที่แอนฟิลด์) และ เซร์คิโอ อเกวโร่ (12 ประตูที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม)

– ริคาร์โด้ เปเรยร่า ยิงประตูสองเกมติดต่อกันในพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรก

– เลสเตอร์ แพ้แค่เกมเดียวจาก 9 แมตช์ในบ้านเกมพรีเมียร์ลีก (ชนะ 6 เสมอ 2) ซึ่งเกมที่แพ้ก็คือแมตช์ดวล นิวคาสเซิ่ล เมื่อเดือนเมษายน

เรื่อง/เรียบเรียง : แมนคูเนี่ยน