ถือเป็นเกมที่พรีเมียร์ที่อยู่ในความทรงจำของใครหลายๆคนแน่นอน โดยเฉพาะแฟนหงส์แดงทำให้ รู้จักดาวเตะชาวรัสเซียที่ชื่อ อังเดร อาร์ชาวิน ที่ทำคนเดียว 4 ประตูจนเกือบพา อาร์เซนอล ยัดเยียดความปราชัยถึงเมอร์ซีย์ไซด์ใหญ่ ยังดีที่ ยอสซี เบนายูน ยิงประตูสำคัญในช่วงทดเวลาการแข่งขัน ทำให้ทั้งสองทีมเสมอกันไปอย่างสนุก 4-4
ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลิเวอร์พูล 4 – อาร์เซนอล 4
เปิดเกมมา อาร์เซนอล ที่ชื่อชั้นตัวผู้เล่นเป็นรอง เริ่มโชว์การต่อบอลทันที แต่แค่ 3 นาทีกลายเป็น ลิเวอร์พูล ที่มีโอกาสก่อนหลังลูกโด่งมาที่ปีกซ้าย ตอร์เรส หนุน ซานญ่า นิดหน่อยจนเก็บบอลลงได้ จากนั้น ก็ลากฝ่าด่านทั้ง ซานญ่า และตูเร่ จนหลุดมาถึงในปากกรอบโทษ แต่ตอนเอี้ยวตัวยิงกะแปไซด์ ฟาเบียนสกี้ ดักทางล้มตัวเซฟเอาไว้ได้สุดเสียว
เจ้าถิ่นพอได้ลุ้นจังหวะนี้เหมือนได้กลิ่นเลือดบุกแหลกจน ตอร์เรส ได้เลี้ยงมุดๆเข้าเขตโทษ แต่ไม่ผ่านด่านแนวรับทีมเยือน และตอนนี้กองหลัง อาร์เซนอล ช่วยกันเคลียร์ทิ้งได้ดีทีเดียว
นาทีที่ 6 ตอร์เรส วิ่งมาเอาบอลในเขตโทษก่อนลื่น แต่ยังลุกขึ้นมาได้แล้วก็หมุนตัวยิงตรงบนเส้นเขตโทษ
แต่เจอ ตูเร่ เข้าเสียบบอลทะลักมาเข้าทาง ริเอร่า ที่แต่งบอลแต่เลือกยิงเองไม่ยอมถ่ายออกให้เพื่อนที่แล่บมาคนเดียวในกรอบฝั่งขวา ทำให้ ฟาเบียนสกี้ ล้มตัวตระครุบเอาไว้ได้
อีก 4 นาทีต่อมา “หงส์แดง” น่าจะขึ้นนำเหลือเกินหลัง เคาท์ จ่ายบอลตัดหลัง กิบส์ ให้ เบนายูน หลุดเข้าเขตโทษแต่จังหวะยิงติดบล็อก ฟาเบียนสกี้ ที่ออกมาบล็อกเร็วบอลหลุดไปถึง อาร์เบลัว ที่ปรี่มาซ้ำแต่ก็ยังเป็นนายทวารสำรองบล็อกอีกรอบจน เค้าท์ มาตามเก็บตกทุกอย่างถึงได้สงบลง
นาที 18 เจ้าถิ่นน่าจะขึ้นนำสุดๆ อลอนโซ่ แทงจะให้ทะลุช่องแต่ตอร์เรส มาฉกจับบอลก่อนง้างเกือกยิงตะบันเต็มข้อร้อนถึง ฟาเบียนสกี้ ต้องบินปัดข้ามคานออกไป นาที 29 ทีมเยือนได้โอกาสครั้งแรกก็เกือบได้ประตูทันทีหลัง กิ๊บส์ เปิดบอลจากปีกซ้ายเข้ามา เรน่า กระโดดเตรียมรับแต่ แอกเกอร์ ไม่รู้โขกย้อนไปเข้าทาง ฟาเบรกาส ที่ยิงตามน้ำบอลไม่ตรงกรอบแต่ไปเข้าทาง เบนด์เนอร์ ที่แหย่สุดขาไม่ถึงบอลออกหลังไปสุดเสียว
แต่แล้วนาที 36 หายนะของ ลิเวอร์พูล มาเยือนหลังอุตสาห์ไปแย่งบอลจาก นาสรี่ ตรงมุมธงก่อนเชสก์มาปั๊มแย่งกับ มาสเคราโน่ ที่เหม่อในกรอบจน นาสรี่ ได้บอลแล้วรอให้ ฟาเบรกาส คนที่แย่งบอลวิ่งสอดแล้วแทงก่อนที่แข้งสเปนจะตบให้ อาร์ชาวิน กดเต็มเท้าบอลพุ่งชนคานแฉลบข้ามเส้นเข้าไปอย่างสุดมัน 1-0 สำหรับทีมเยือน
นาที 37 เบนายูน น่าจะตีเสมอให้เจ้าถิ่นจากจังหวะที่ มาสเคราโน่ แทงทะลุช่องจนกระชากจี้เข้าเขตโทษก่อนลากตัดเข้าซ้ายแล้วยิงบอลพุ่งน่ากลัวแต่ ฟาเบียนสกี้ สวมบทปลาหมึกเหนียวพุ่งปัดมือเดียว ก่อนหมดเวลานาทีเดียว ลิเวอร์พูล ที่ขึงเกมอย่างหนักก็เกือบตีเสมอได้จากลูกครอสของ อาร์เบลัว เป็น เบนายูน โหม่งเช็ดบอลไปหล่นบนเพดานตาข่าย
ทดเจ็บนาทีสุดท้ายหลังจังหวะสวนกลับ มาสเคราโน่ แทงขนานเส้นปีกซ้ายให้ เบนายูน วิ่งควบไปเอาแล้วลากตัดเข้าหน้ากรอบโทษ ก่อนตอกส้นให้ ริเอร่า เปิดบอลเข้ากลางแต่บอลไปขลุกขลิกลงท้าย แอกเกอร์ ได้ยิงด้วยอีซ้ายแต่ ฟาเบียนสกี้ ยืมมุมดีรับเข้าซองสบาย ก่อนจบ 45 นาทีแรก อาร์เซนอล บุกนำ 1-0
กลับมาต่อครึ่งหลัง เริ่มมาแค่ 4 นาทีความผิดพลาดในแนวรับของ อาร์เซนอล ทำให้ ลิเวอร์พูล ตีเสมอย่างรวดเร็วจากจังหวะที่ อาร์เบลัว เปิดบอลติดกองหลังบอลแฉลบย้อยเข้าเขตโทษ
และตรงนั้นไม่มีนักเตะเจ้าถิ่นเลยแต่ ซานญ่า ดันหวดทิ้งแป๊กมาเข้าทาง เคาท์ ที่ยืนอยู่ตรงกรอบโทษฝั่งขวาเลยใช้ความพยายามเปิดบอลสองครั้งถึงข้ามมาก่อน ตอร์เรส สะบัดบอลลงพื้นเสียบหน้าต่างไกลหมดสิทธิ์ที่ ฟาเบียนสกี้ จะทำอะไรได้ 1-1 แล้ว
สุดยอดเกมที่โลกต้องจารึกเมื่อลูกขยันของ เบนายูน วิ่งไล่บอลจน ซิลแวสตร์ คืนหลังให้ ฟาเบียนสกี้ ที่ไม่ยอมเตะทิ้งเลือกแปะออกซ้ายให้ กิบส์ ซึ่งถูกตอร์เรส ไล่เข้ามาเลยต้องหวดทิ้งแต่ไปเข้าทาง เคาท์ ที่กระชากถึงกรอบโทษฝั่งขวาแล้วเปิดบอลย้อยสุดสวยให้ เบนายูน วิ่งสอดมาที่เสาสอง
และบวกกับกองหลังอาร์เซนอลที่กระโดดหวดบอลเลยเปลี่ยนทิศจน ฟาเบียนสกี้ ถลำเข้าไปในโกล์ก่อนควักออกมา แต่บอลข้ามเส้นชัดเจน ลิเวอร์พูล ยิง 2 ลูกใน 7 นาที!!
อย่างไรก็ตาม เกมที่กำลังเหนือกว่าของ “หงส์แดง” กลับมาตายเองอีกแล้วหลัง คาร์ราเกอร์ โขกคืนให้ อาร์เบลัว ที่หันหลังไม่เคลียร์จน อาร์ชาวิน มาฉกไปดื้อๆก่อนยิงเต็มข้อบอล บอลพุ่งติดไซด์ก้อยเสียบหน้าต่างเข้าไปอย่างสุดมัน เสมอ 2-2!!
อีก 3 นาทีแนวรับ ลิเวอร์พูล ทำพิษอีกแล้ว หลังลูกเปิดของ กิ๊บส์ จากปีกซ้ายเข้าเขตโทษเลยมาถึง ออเรลิโอ ที่เคลียร์แป๊กกลายเป็นส่งให้ อาร์ชาวิน จับแล้วยิงแบบไม่ต้องคิดมากจากระยะแค่ 10 หลาบอลลอดใต้แขน เรน่า ที่ล้มตัวเร็วแค่ไหนก็รับไม่ได้ อาร์เซนอลแซงเฮ 3-2
จนมาถึงนาทีที่ 70 ตอร์เรส ก็มายิงลูก 3-3 ให้เจ้าถิ่นหลัง ริเอร่า เปิดบอลจากปีกซ้ายให้ ตอร์เรส จับสุดเนียนก่อนหมุนตัวจะยิงจังหวะแรกแล้วไม่ยิงจน ซิลแวสตร์ หลง ก่อนซัดจริงๆบอลทะลุเสียบหน้าต่างเข้าไป โดยที่ ฟาเบียนสกี้ ปัดไม่พ้น ตารางบอล
ก่อนหมดเวลา 8 นาที ลิเวอร์พูล น่าจะขึ้นนำเหลือเกินจากลูกเตะมุมของ อลอนโซ่ บอลลอยมาเข้าหัว ตอร์เรส ที่โขกสะบัดบอลจะเสียบเสาอยู่แล้วแต่กิบส์โหม่งเคลียร์บนเส้นสุดช็อก
แต่แล้วนาทีสุดท้ายจังหวะที่บุกเพลินๆจังหวะเตะมุมของลิเวอร์พูลเจอ วัลค็อตต์ สวนกลับกระชากม้วนเดียวมาถึงระยะ 30 หลาก่อนเหลือบเห็น อาร์ชาวิน ทางซ้ายแล้วป้ายให้ก่อนล่อเป้ายิงด้วยอีซ้ายแสกเรน่าเบียดเสาเข้าไปสุดงาม
บอลยังไม่จบเพราะช่วงทดเจ็บที่ทดไปถึง 6 นาที ลิเวอร์พูล ก็มาตีเสมอได้ในนาทีที่ 93 จากจังหวะบอมบ์เข้าใส่เขตโทษของ อาร์เซนอล บอลขลุกขลิกมาเข้าทาง เบนายูน ที่ซัดเผาขนเข้าไปตีเสมอ 4-4 แต่แม้จะนำจ่าฝูง แมนฯยูไนเต็ด ก็ได้เปรียบเพราะเล่นน้อยกว่าถึง 2 นัดเลยทีเดียว
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า, อัลบาโร่ อาร์เบลัว, ดาเนี่ยล แอกเกอร์, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, ชาบี อลอนโซ่, ยอสซี่ เบนายูน, อัลเบิร์ต ริเอร่า (บาเบล น.73), เดิร์ก เคาท์ (เอล ซาร์ น.86), เฟร์นานโด ตอร์เรส
อาร์เซนอล : ลูคัส ฟาเบียนสกี้, บาคารี่ ซาญ่า, โคโล่ ตูเร่, มิกาเอล ซิลแวสตร์, เดนิลสัน (วัลค็อตต์ น.66), อเล็กซานเดอร์ ซง, เชส ฟาเบรกาส, อังเดร อาร์ชาวิน, ซาเมียร์ นาสรี่, นิคลาส์ เบนด์เนอร์
เรื่อง/เรียบเรียง : แมนคูเนี่ยน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น