ย้อนกลับไปในปี 2013 ตอนที่บาร์เซโลน่านั้นแพ้ให้กับ เอซี มิลาน 2-0 ในเกมแรกของรอบ 16 ทีมสุดท้าย ในปี 2013 นั้นไม่มีใครคิดว่าทีมเจ้าบุญทุ่มจะพลิกสถานการณ์กลับมาได้
เกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดแรก เอซี มิลาน เปิดรัง ซาน ซิโร่ ชนะ บาร์เซโลน่า ได้ก่อน 2-0 จากการทำประตูของ เควิน พรินซ์ บัวเต็ง และ ซัลลี่ย์ มุนตารี่
ก่อนหน้านั้นก็ไม่มีทีมไหนในแชมเปี้ยนส์ลีกที่สามารถกลับมาได้หลังจากเกมนัดแรกที่แพ้ไป 2-0
ทว่าบาร์เซโลน่าก็หักปากกาเซียนได้สำเร็จด้วยการกลับมาเอาชนะ เอซี มิลาน ได้ 4-0 ในเกมนัดที่สองที่ คัมป์ นู
ความหวังพลิกเข้ารอบมาอย่างเร็วเพียงแค่ 5 นาที ลิโอเนล เมสซี่ ก็จัดการเบิกสกอร์แรกของเกมส์ได้แล้ว จากจังหวะทำชิ่งกัน หน้ากรอบเขตโทษ แม้จะมีผู้เล่นมิลานถึง 4-5 คนรุมล้อม แต่เมสซี่ก็จัดการแต่งด้วยขวา ปั่นด้วยซ้าย บอลโค้งเสียบสามเหลี่ยมหน้าตาเฉย เป็นประตูในนาทีที่ 5
จากนั้นก่อนหมดครึ่งแรก 5 นาที เจ้าบ้านได้เฮอีกครั้ง แล้วก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็น เทพเมสซี่ คนเดิม
จากจังหวะสวนกลับ มาตรงกลาง เป็น อันเดรส อีเนียสต้า ที่ได้บอลแล้วแทงบอลทะลุไปให้ ลิโอเนล เมสซี่ แต่งบอลนิดหน่อย ก่อนจะซัดเลียดเบียดโคนเสาเข้าประตูไปในนาทีที่ 39 จนจบครึ่งแรกสกอร์เป็นเจ้าถิ่นนำ 2-0 ทำให้รวม 2 นัด สถานการณ์มาเท่ากันที่ 2-2 ตารางบอล
ถัดมาในครึ่งหลัง ก็ยังเป็นบาร์เซโลนาที่ครองบอลต่อบอล และในนาทีที่ 55 อีเนียสต้า ถ่ายบอลต่อกับชาบี เอร์นานเดซ เบิ้ลบอลเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ให้ ดาบิด บีย่า ได้หลุดเข้าไปซัดด้วยซ้ายบอลหนีมือ คริสเตียน อับเบียติ บอลพุ่งเสียบเสาสองอย่างเด็ดขาด ในนาทีที่ 55 บาร์ซานำ 3-0 พลิกสถานการณ์สกอร์รวม 3-2
หลังจากนั้น มิลานเป็นฝ่ายโหมบุกมากขึ้นเพราะหากได้ประตูจะเป็นฝ่ายได้เปรียบจากอะเวย์โกลทันที
แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เป็นผลสำเร็จ และในช่วงทดเวลาบาดเจ็บบาร์ซ่าก็มาได้ประตูชัยตอกฝาโลง
จากจังหวะสวนกลับเร็ว บอลขึ้นมาทางฝั่งขวา แล้วโยนข้ามแนวรับมิลาน ที่ลงมาไม่ทัน และเป็น จอร์ดี้ อัลบา ที่วิ่งเต็มมาเร็ว รับบอลเข้าไปดวลตัวต่อตัวกับ อับเบียติ
ก่อนจะงัดข้ามตัว อับเบียติ เข้าไปอย่างเหนือชั้น ฝังมิลานที่คัมป์นู ในนาทีที่ 90+2 จบเกมส์แฟนมิลานทั่วโลกแทบจะช็อกไปตามๆกัน เมื่อปีศาจแดง-ดำบุกมาแพ้ บาร์เซโลน่า ด้วยสกอร์ 4-0 รวมผล 2 นัด บาร์เซโลน่าชนะด้วยประตูรวม 4-2 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย
เรื่อง/เรียบเรียง : แมนคูเนี่ยน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น