ลูกฟุตบอลรุ่นนี้ ยังคงใช้ชื่อว่า “เมอร์ลิน” (เหมือนฤดูกาลก่อน) แต่มีการออกแบบ และพัฒนามาใหม่ เพื่อฤดูกาล 2019-2020 ความใหม่ของ เมอร์ลิน อย่างแรกเลย คือ ดีไซน์ที่พลิกโฉมไปจากรุ่น เมอร์ลิน เมื่อฤดูกาลก่อน และ ออร์เด็มที่อยู่มานาน
โดย ไนกี้ ระบุว่า เมอร์ลิน รุ่นนี้ ได้แรงบันดาลใจมาจากทั้งวัฒนธรรม และความเป็นเมืองของอังกฤษ
และพรีเมียร์ ลีก ด้วย เนื่องในวาระฉลองครบ 20 ปีของการเป็นพาร์ตเนอร์กับ พรีเมียร์ ลีก ต่อจาก ไมเตอร์ (Mitre) ตั้งแต่ฤดูกาล 2000-2001 เป็นต้นมา
ซึ่งถูกถ่ายทอดผ่านพื้นที่สีสันสะดุดตา บนพาแนลของลูกฟุตบอล ซึ่งมีแค่ 4 ชิ้น เหมือนรุ่นก่อน เพื่อให้มีรอยต่อ และตะเข็บน้อย จากการออกแบบสไตล์โมดูลาร์ ดีไซน์ (เหมือน ไนกี้ แอร์) ผลคือ ลูกฟุตบอลรุ่นนี้ จะมีดีไซน์ได้มากกว่า 2 แบบในฤดูกาลนี้
ด้วยดีไซน์ที่เน้นให้ดูเตะตา และสีแบบนี้ จะทำให้นักเตะและแฟนบอล มองเห็นลูกฟุตบอลได้ชัด และง่ายขึ้นไปอีก มีการวิเคราะห์ว่า ส่วนเหตุผลที่เลือกใช้สีชมพูเข้ม เพราะเป็นสีที่ดูสด และให้ความสว่าง อีกทั้งสีกรมท่าที่ตัดกันดูสวยเข้าได้ดี
อีกทั้งช่วยให้เห็นถึงความต่างของสีเข้ม และสีอ่อนอย่างชัดเจน วิสัยทัศน์ในการมองเห็นลูกฟุตบอล
จึงชัดกว่าสีแบบอื่นๆ แน่นอน เมื่อมองเห็นลูกฟุตบอลได้ดีขึ้น เห็นตำแหน่งลูกฟุตบอลชัดขึ้น ก็จะมีผลต่อการจัดวางท่าร่างกายในการส่ง หรือยิงด้วย
นอกจากนี้ ไนกี้ ยังได้ขยายจุดสัมผัส หรือที่เรียกกันว่า สวีต สปอต (Sweet Spot) บนลูกฟุตบอล เมอร์ลินให้ใหญ่กว่าเดิม สวีต สปอต คือ พื้นที่สัมผัส ที่เรียบบนลูกฟุตบอล และสิ่งที่นักเตะจะได้รับ คือ ประสิทธิภาพ เกี่ยวกับส่งบอล และ “ยิง” ตารางบอล
ทั้งความหนักหน่วงของลูกยิงที่ซัดได้แบบเต็มเท้า และการไซด์โค้งที่แม้ตีวงกว้าง แต่จะโค้งกลับเข้ามาสู่เป้าหมายได้ง่ายขึ้น ประกอบกับความเสถียรในการลอยตัวที่มากขึ้น นั่นทำให้ลูกฟุตบอลส่ายน้อยลง และพุ่งไปยังเป้าหมายเร็วกว่าเดิม
ลูกฟุตบอลใหม่นี้ เหล่านักเตะคงจะชอบใจแน่ แต่ทำให้ผู้รักษาประตูพวกเขาไม่ปลื้มแน่นอน อาจเจอกับลูกไซด์โค้งที่กะจังหวะลำบาก และลูกยิงที่เร็วขึ้น ส่วนแฟนบอลทั่วไป ก็คงจะชอบใจ ถูกใจเช่นกัน เพราะมีโอกาสได้เห็นลูกยิงสวยๆ มากขึ้นในฤดูกาลหน้า เห็นด้วยหรือไหมล่ะ??
-แมนคูเนี่ยน-
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น