เลี่ยนกระชวกไส้

ในเวทีฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ยูโร 2020 รอบคัดเลือก ทีมยักษ์ใหญ่ยุโรปที่อยู่ในช่วงฟุบหลับไปในช่วงปีที่ผ่านมา เริ่มกลับมาทำผลงานโชว์ฟอร์มได้ตามเป้าแล้ว

อย่างแชมป์โลกเยอรมันที่ล้มเหลวสุดๆ ทั้ง 2 รายการ อย่าง ฟุตบอลโลก 2018 กับ เนชั่นส์ ลีก ได้มีสัญญาณที่ดีขึ้นบ้างแล้ว หลังทีมได้มีการถ่ายเลือดใหม่ หลังได้ปลดระวาง 3 ตัวเก๋า ทั้ง เยโรม บัวเต็ง, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ และ โธมัส มุลเลอร์

โยกี้ เลิฟ บุนเดสเทรนเนอร์ ได้ทดลองผู้เล่นหน้าใหม่ และวัดใจกับผู้เล่นสายเลือดใหม่แทน จะเห็นได้ว่า แข้งเบียร์เล่นกันอย่างเต็มที่ทุกคน อันเป็นแคเรกเตอร์อินทรีเหล็กมาหลายยุคหลายสมัย

ส่วนอีกทีมที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ ทีมชาติอิตาลี นั่นเอง ทัพอัซซูรี่ ภายใต้การคุมทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ได้รับคารจับตามองมากขึ้น หลังล้มเหลวชนิดช็อกคอลูกหนังทั่วโลก ไม่ได้ไปฟุตบอลโลกที่รัสเซีย

กระทั่งประเดิมผลงานการคัดเลือกยูโร 2020 ใน 2 นัดแรกอย่างสวยงาม

นัดแรกชนะฟินแลนด์ไปสบายๆ 2-0 นัดสองถล่ม ลิกเตนสไตน์ แบบไม่ไว้หน้าถึง 6-0 เก็บ 6 แต้มเต็ม กดไป 8 ดอก และไม่เสียแม้แต่ลูกเดียว

อัซซูรี่ เป็นอีกทีมที่มีการถ่ายเลือดใหม่คล้ายๆ เยอรมัน นายใหญ่มันชินี่จึงตัดสินใจผ่าตัดทีมครั้งใหญ่ โดยดันเด็กสายเลือดใหม่ขึ้นมาหลายคน

ซึ่งมันเป็นเคสเดียวกับ แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือสิงโตคำราม ที่กล้าเปิดโอกาสให้เด็กรุ่นใหม่ได้ลงเล่นอย่าง เดแคลน ไรซ์, เจดอน ซานโช่ และ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ให้เด็กเหล่านี้ได้เรียนรู้ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้วยตัวเอง

มันโช่ กล้าทำในสิ่งที่กุนซือหลายคนในลีก กัลโช่ ที่ไม่ค่อยให้โอกาสเด็กเลี่ยนรุ่นใหม่ ได้โชว์ฝีเท้าในสนาม ชอบจับนั่งสำรอง บางรายยังเตะอยู่ในชุดเยาวชนด้วยซ้ำ

อย่างเช่น มวส คีน เด็กนรกจากยูเวนตุส ที่ได้โอกาสลงเป็นตัวจริงและทำประตูได้ด้วย แม้ในทีมยูเวนตุสเขายังเป็นแค่ตัวสำรองก็ตาม หรือ นิโกโล่ บาเรลล่า หรือ ซานิโอโล่ ต่างกล้าลุยกล้าเล่น โชว์คุณภาพฝีเท้าในสนามชัดเจน

อีกทั้งใครจะไปคิดว่ามันโช่ จะหวนคืนกลับมาใช้บริการดาวยิงตัวเก๋าอย่าง ฟาบิโอ กวายาเรลล่าในวัยใกล้หลักสี่ออีกครั้ง เป็นกลับมาเล่นให้ทีมชาติในรอบเกือบ 9 ปี ก่อนสร้างสถิติเป็นแข้งอายุมากสุดที่พังประตูจากเกมทางการได้

ส่วนในเกมรับก็ยังทำได้เยี่ยมอันเป็นจุดเด่นของ “อัซซูรี่” มาหลายสมัยแล้ว

อิตาลี ชุดนี้กำลังเดินมาถูกทางแล้ว แม้ว่าอาจยังไม่ดีที่สุดเทียบเท่าอิตาลีในยุค 2000 ที่เรารู้จัก 

และมีแข้งระดับเวิล์ดคลาสอยู่เต็มทีม แต่การเปลี่ยนแปลงใหม่ครั้งนี้เป็นการส่งสัญญาณที่ดี อาจต้องให้เวลามันชินี่ในการสร้างทีมที่เขาต้องการ ปรุงแต่งอัซซูรี่ให้กลับมาเป็นทีมที่น่ากลัว และแข็งแกร่งทีมเดิมอย่างเต็มที่

ด้วยชัยชนะอันสวยหรูสองนัด แม้คู่ต่อสู้จะอยู่ในระดับต่ำชั้นกว่า แต่ด้วยฟอร์มการเล่น ผลงาน สถิติต่างๆ ชี้ให้เห็นว่าอิตาลีมีกราฟชีวิตที่ดีขึ้น ตารางบอลวันนี้

เกมรับยังไว้ใจได้ตราบใดที่มี เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ กับ จอร์โจ คิเอลลินี่ ยืนจับคู่กัน และยังมีตัวรับช่วงต่ออย่าง อเลสซิโอ โรมันโญลี่ และ ดานิเอเล่ รูกานี่ ที่พร้อมทดแทนได้ทุกวินาที

แดนกลางก็แน่นมีตัวเลือกหลายคนให้ใช้งาน มาร์โก แวร์รัตติ, จอร์จินโญ่ เป็นตัวหลัก ในยุคของมันโช่ ไหนจะมี บาเรลล่า และ ซานิโอโล่ ฯลฯ คอนสแตนด์บายอีก

ตัวรุกและริมเส้นดีๆก็มี เฟเดริโก้ แบร์นาร์เดสคี่, เฟเดริโก้ เคียซ่า และ ลอเรนโซ่ อินซิเย่ ฯลฯ

แต่หน้าเป้านี่สิ ยังคงเป็นจุดอ่อนที่ยังไม่ลงตัวเสียที ชิโร่ อิมโบมิเล่ ฟอร์มในทีมชาติไม่เปรี้ยงเหมือนตอนเล่นลาซิโอ ยังไม่สามารถเป็นตัวความหวังได้ กวายาเรลล่า ก็อายุอานามก็มากขึ้นไม่เหมาะที่จะยืนระยะยาว หรือไม่มันโช่ ต้องเสี่ยงดัน มวส คีน ขึ้นมาเล่นเต็มตัวเลย หรืออาจซื้อใจ มาริโอ บาโลเตลลี่ อีกสักตั้ง

อิตาลีออกสตาร์ทภารกิจพิชิตตั๋วยูโร 2020 ได้สวยงาม แม้จะเหลือเกมอีกหลายนัด แต่ถือเป็นเรื่องที่ดีได้เห็นอนาคตอันสดใสทีมชาติชุดปัจจุบัน สำหรับสาวกอัซซูรี่  

-แมนคูเนี่ยน-

เพิ่มเติม: ข่าวฟุตบอล