ดูเหมือนว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในยุค โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะชอบกับการเล่นนอกรังเสียเหลือเกินเพราะนัดล่าสุดก็เพิ่งไปเอาชนะ คริสตัล พาเลซ มาได้
คริสตัล พาเลซ คือเหยื่อลอนดอน รายที่ 5 ที่โดน ปิศาจแดง ภายใต้การนำของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา
บุกกระทุ้งคารัง โดยก่อนหน้านี้มีทั้ง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์, อาร์เซน่อล, ฟูแล่ม และ เชลซี ที่เป็นผู้ถูกกระทำชำเรา
นอกจากจะเป็นการคว้าชัยที่สวยงามมันยังกลายมาเป็นสถิติของสโมสรด้วยการคว้าชัยเกมเยือนได้ 8 เกมติดต่อกัน ซึ่งเกิดขึ้นในระยะเวลาเพียง 2 เดือนเท่านั้
ไม่แปลกที่จะบอกว่า ผีแดง ยุค ‘โอเล่’ ชอบหลอกคนข้างนอกมากกว่าในบ้าน แถมยังทำผลงานได้ดีชนิดที่ต้องยกนิ้วให้
ยิ่งดูจากสภาพทีมในนัดที่ผ่านมาต้องบอกว่า “หนักหนาสาหัส” แม้สถิติการพบกับ พาเลซ นั้นจะข่มมิดอยู่ก็ตาม แต่ด้วยสถานการณ์ที่ต้องเผชิญบรรดาคีย์แมนนัดกันเดี้ยงหลายคน ทั้ง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล,
เจสซี่ ลินการ์ด, ฆวน มาต้า, อันเดร์ เอร์เรร่า, เนมานย่า มาติช, ฟิล โจนส์, อันโตนิโอ วาเลนเซีย และ มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน ต่างโดนโรคเดี้ยงเล่นงาน
อีกทั้งต้องมาเยือนสนามปราบเซียน เซลเฮิร์สต์ พาร์ค “ดิ อีเกิ้ลส์” กำลังคึกสุดขีดจากการที่ไม่แพ้ใครมา 6 นัดติดต่อกันในทุกรายการ แมนฯ ยูไนเต็ด ส่อมีโอกาสไม่ได้สามคะแนนสูงมาก
แต่ผลงานในสนามกลับคลายความกังวลของแฟนบอลและเพิ่มความมั่นใจมากขึ้น เอาตัวรอดจากเกมสำคัญได้สำเร็จ
นัดล่าสุด โซลชา ปรับการเล่นพอสมควร ทั้งจากปัจจัยนักเตะบาดเจ็บและผู้เล่นที่ลงสนาม โดยเฉพาะ
ปอล ป็อกบา ที่ถูกโยกไปยืนในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางทางขวา เพราะเกมดังกล่าวมี เฟร็ด ลงมาประจำการแทน รวมไปถึง สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่ทำหน้าที่แทน เนมานย่า มาติชได้อย่างเนียนตา
แดนกลางถือว่าเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ของ โซลชา เพราะเขาลั่นว่าวาจาแล้วว่าจะเป็นพื้นที่ที่ ป็อกบา ได้โชว์ผลงาน และเกมที่ผ่านมาก็แสดงอีกครั้งว่ากองกลางชาวฝรั่งเศสพร้อมถวายหัวเพื่อรับใช้เจ้านายอย่าง
“โอเล่” เต็มความสามารถ ไม่มีอิดออด หรือท่าทางไม่พอใจ จะมีเพียงผลงานในช่วงครึ่งแรกที่ยังไม่เนียนตา แต่โดยรวมถือว่า ป็อกบา ทำได้ดีเมื่อต้องถูกจับไปเล่นในพื้นที่อื่นๆ
จะมีเพียง เฟร็ด ที่ยังดูเก้กัง ขาดๆเกินๆ ซึ่งจุดนี้พอเข้าใจได้เพราะเขาร้างสนามไปนานทำให้การจับจังหวะยังไม่เข้าที่เข้าทาง ต่างจากเจ้าหนู สกอตต์ ที่นิ่งเกินวัยและทำหน้าที่ข้างหน้าปราการหลังตัวกลางได้อย่างยอดเยี่ยม
แนวรับ … ผลงานของ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ ยิ่งเล่นยิ่งดีและยิ่งแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะจับคู่กับใคร
(สมอลลิ่ง, โจนส์ หรือ ไบญี่) เขาสามารถงัดศักยภาพที่ดีออกมาให้กับทีม และที่สำคัญเขากล้าที่ครองและพาบอลขึ้นมา ซึ่งนั่นเป็นอีกหนึ่งอาวุธเด็ดของกองหลังรายนี้
วิงแบ็กเองก็เจองานหนักโดยเฉพาะ แอชลี่ย์ ยัง ที่ต้องขอบ่นหลังจบเกมว่าเหนื่อยมากกับการตามประกบ วิลฟรีด ซาฮา แน่นอนว่า อ.ยัง มีจังหวะพลาดที่ไม่น่าให้อภัยในจังหวะเสียประตู แต่เขากลับมาแก้ตัวได้ในจังหวะยิงประตูปิดกล่องซึ่งก็ถือว่า เจ๊า กันไป
คนที่ต้องชมอย่างมากคือ ลุค ชอว์ ที่เล่นได้โดดเด่นมากๆ ในเกมนี้ เพราะแบ็กซ้ายทีมชาติอังกฤษวิ่งขึ้นลงไม่มีหมด ทั้งเติมเกมปิดตัวประกบแถมยังมีส่วนกับการได้ประตู เรียกว่าหากไม่มี โรเมลู ลูกากู ก็คงเป็น ชอว์ นี่แหละที่เหมาะกับรางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์
โดยรวมถือว่าผลงานของนักเตะแมนฯ ยูไนเต็ด ทำได้ดีเกินคาดหากมองถึงความพร้อมของนักเตะที่มีให้ใช้งาน ทีเด็ดบอลเต็งวันนี้
ชัยชนะช่วยให้ทีมคลายความกังวล แต่มันคงไม่นานเพราะเกมนัดต่อไปใกล้เข้ามาทุกขณะ และปัญหาสำคัญคืออาการบาดเจ็บและล้าของนักเตะ ซึ่งนี่จะเป็นการวัด “กึ๋น” ของ โซลชา เลยว่าจะทำได้ดีเพียงใดในช่วงที่ทีมเจอ ‘วิกฤติ’ แข้งเดี้ยง
เกมต่อไปเปิดบ้านรับมือ เซาธ์แฮมป์ตัน ซึ่งถือว่าสำคัญเพราะตอนนี้ชัยชนะมีความหมายถึงการขยับเข้าไปในพื้นที่ “ท็อป 4”
ยิ่ง 3 เกมหลังจากนั้นล้วนแล้วแต่เป็นเกมที่ห้ามพลาด ทั้งการออกไปเยือน ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ที่ถูกมองว่าโอกาสพลิกเข้ารอบริบหรี่เพราะเกมแรกโดนคารังมาก่อน 0-2 แต่ โอเล่ ยังคงแสดงให้เห็นถึงความหวังและมุ่งมั่นเต็มที่
หลังจากนั้นต้องเจองานหนักขึ้นไปอีกเพราะมีศึก ‘ท็อป 4’ อ้าแขนรอนั่นคือการบุกไปเยือนอาร์เซน่อล
ที่ เอมิเร็ตส์ และต่อด้วยศึก เอฟเอ คัพ กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน
ด้วยปัจจัยที่ถือว่าส่งผลกับทีมอย่างชัดเจนนั่นคือการหายไปของบรรดาแกนหลัก นี่จะเป็นช่วงเวลาพิสูจน์ “กึ๋น” และ แท็คติก ของกุนซือนาม โอเล่ กุนนาร์ โซลชา อย่างแท้จริง
ช่วงเวลาที่จะพิสูจน์ว่าถึงทีมจะพิการและไม่พร้อมรบเพียงใดแต่เขาก็จะพยายามและพร้อมผลักดันทีมให้เดินหน้าต่อไปด้วยนักเตะที่มี
สิ่งเหล่านี้จะพิสูจน์ออกมาจากผลงานในสนาม และนั่นคือคำตอบที่ดีที่สุดว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เหมาะสมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบถาวร หรือไม่
-แมนคูเนี่ยน-
เพิ่มเติม: ข่าวฟุตบอล
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น