โอเล่ กุนนาร์ โซลซา กุนซือขัดตาทัพใหม่ของผีแดง เปิดตัวการคุมทีมนัดแรกอย่างสวยหรู บุกไปถล่มคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ 5-1 ในเกมลีกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
คงไม่เกินไปหากจะกล่าวว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดความเปลี่ยนแปลงมากมายในรั้ว โอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยเฉพาะการแยกทางของสโมสร และ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่ช่วงหลังโดนแฟนบอลวิจารณ์อย่างหนัก อย่างที่ทราบๆกัน รูปแบบการเล่นที่ล้าหลังไม่ได้ดั่งใจสาวก"เร้ด อาร์มี่"
รวมไปถึงการพ่ายแพ้อริตัวฉกาจอย่าง ลิเวอร์พูล แบบหมดสภาพ มันคือฟางเส้นสุดท้ายของทั้งสองฝ่าย
หลังการประกาศการแยกทางกับกุนซือชาวโปรตุเกสได้ไม่นาน แฟนบอลต่างมโนไปหลากหลายว่าใครจะเข้ามา "รักษาการ " แทนไปจนถึงจบฤดูกาล ซึ่งไม่ต้องใช้เวลาคิดนานเพราะชื่อ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา โผล่ขึ้นมาเป็นคนๆนั้น
แววตาแฟนบอลเปล่งประกาย นี่คืออดีตขวัญใจเด็กผี กองหน้าผู้จงรักภักดีและไม่ปริปากบ่นแม้หน้าที่ของเขาจะอยู่ข้างสนามมากกว่าในพื้นหญ้า
แต่เมื่อมีโอกาส "โอเล่" มักจะทำให้ท้องฟ้าที่หม่นหมอง กลายเป็นท้องฟ้าที่แจ่มใสแทน
นี่คือมืออาชีพที่แท้จริง ตำนานผู้ที่แฟนปีศาจแดงหลงรักและยกเป็น 1 ในกองหน้าที่ดีคนหนึ่งของสโมสร
วันเวลาเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างเปลี่ยนไปตามเส้นทาง แต่หัวใจของ โซลชา ยังคงภักดีกับ ยูไนเต็ด และเมื่อมีโอกาสกลับมายังสโมสรในฐานะ "รักษาการ" ผู้จัดการทีม เขาก็ไม่ปฏิเสธที่จะรับงานทันที
การเข้ามาของเขาอาจจะมีคำถามติดอยู่ว่าจะสามารถผลักดัน ปีศาจแดง ทีมนี้ไปได้ไกลกว่าที่ผ่านมาหรือไม่ ไม่ต้องพูดถึงอันดับ (ซึ่งนั่นเป็นผลลัพธ์ที่จะตามมา) เอาแค่รูปแบบการเล่นที่หลายคนสงสัยว่าจะออกมาเป็นเช่นไร
แต่ถ้าฟังจากสิ่งที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา พูดหลังเข้ามารับตำแหน่งกุนซือรักษาการ สิ่งที่เขาย้ำมากๆ คือจะนำความเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมา
ทุกคนต้องเล่นฟุตบอลให้สนุก เป็นตัวของตัวเอง และเล่นฟุตบอลเกมรุก ต่อหน้าแฟนๆ ที่ตามมาเชียร์
และทุกอย่างถูกเฉลยออกมาจากล่าสุดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด บุกถลุง คาร์ดิฟฟ์ แบบยับเยิน 5-1 โซลชา ไม่ได้โกหก และเขาทำอย่างที่พูดไว้จริงๆ
ในระบบการเล่น 4-3-3 นักเตะก็ชุดเดิม ตัวเดิมๆ ที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ใช้อยู่เป็นประจำ
จะมีก็แต่ ปอล ป๊อกบา ที่ได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง ส่วน โรเมลู ลูกากู หายไปเพราะลากลับบ้าน
การจัดตัวไม่ได้ต่างอะไรจากยุคมูรินโญ่ แต่ที่แตกต่างคือ "วิธีการเล่น"
เกมนี้มันพิสูจน์ได้ทันทีว่านักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้กาก ไม่ได้ห่วยอย่างที่ใครๆ คิด แต่มันเป็นเพราะแนวทางต่างหากที่มันผิดเพี้ยนไป
โซลชา ทำในสิ่งที่แฟนปีศาจแดงอยากเห็น คือฟุตบอลเกมรุก ไล่บดคู่แข่งไปเรื่อยๆ เดี๋ยวประตูก็มาเอง
การเล่นที่รวดเร็ว ต่อบอลไปมา เคลื่อนที่ไหลลื่น ขยับตัวหาช่องกันฉึบฉับ ไม่มีใครยืนขาตาย ทำให้มีทางเลือกเวลาต่อบอล ขณะที่เวลาเสียก็ช่วยกันไล่ มีการต่อบอลทำชิ่งสวยงามหลายครั้ง จนนำมาซึ่งประตู
โดยเฉพาะลูกนำ 3-1 จาก มาร์กซิยาล ที่สวยงามมาก นั่นคือสิ่งที่ไม่ได้เห็นมานานนมจากแข้งผีแดง
เหมือนกับคนละทีมทั้งๆที่นักเตะก็ชุดเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือสีหน้าท่าทางของนักเตะ รวมไปถึงทัศนคติในการเล่นที่มุ่งมั่นกับการเดินหน้าและฆ่าฟันฝ่ายตรงข้ามให้ตายสนิท วิเคราะห์บอล
โดยเฉพาะคนที่โดนจับตามองที่สุดอย่าง ปอล ป๊อกบา ที่ก่อนหน้าเกมนี้ เขาถูกดร็อปไป 3 เกม หลังมีปัญหาขัดแย้งกับมูรินโญ่ ซึ่งเมื่อเปลี่ยนโค้ชแล้ว ป๊อกบาจะเปลี่ยนแปลงในทิศทางใด
ซึ่งเกมนี้เหมือนได้ปลดปล่อยศักยภาพที่ตัวเองมีได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เล่นเกมบุกอย่างที่ต้องการ ไม่ต้องมาล้วงบอลต่ำ ยังมีการจ่ายบอลสวยๆหลายครั้ง โดยเฉพาะประตูที่ 2 และ 5 ดาวเตะฝรั่งเศสมีส่วนเต็มๆ
นอกจากนี้การเล่นยากๆ หายไป ไม่มีการครองบอล ไม่มีการใช้ทักษะที่พร่ำเพรื่อ ป๊อกบา ก็กลับกลายเป็นนักเตะที่ฝีเท้าและการครีเอตเกมแตกต่างจากคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด
จบครึ่งแรก แมนฯ ยุไนเต็ด นำ คาร์ดิฟฟ์ ถึง 3-1 แม้ว่าจะนำห่าง แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังครองบอล ไม่เปิดโอกาสให้คู่แข่งได้เล่น และเมื่อมีช่องว่าง ก็หาทางยิงเพิ่มทันที จนมาได้เพิ่มอีก 2 ประตูในครึ่งหลัง จากเจสซี่ ลินการ์ด ทั้ง 2 ประตู
จริงอยู่ว่านี่เป็นแค่เกมแรก และคู่แข่งก็เป็นแค่ คาร์ดิฟฟ์ แต่สิ่งที่แฟนผีได้เห็น และเชื่อว่าคนอื่นก็คงคิดเหมือนกันคือวิธีการเล่นของ แมนฯ ยูไนเต็ด ตอนนี้ไม่ได้เล่นฟุตบอลน่าเบื่ออีกแล้ว
เมื่อเล่นด้วยความสนุกนักเตะปลดเปลื้องความกดดัน ผลการแข่งขันหรือผลงานก็จะตามมา
และที่น่าตลกอีกอย่างก็คือ นี่เป็นเกมแรกที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ยิงได้ 5 ประตู หลังจากเกมสุดท้ายที่ป๋าวางมือเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2013 (เกมนั้นแมนฯ ยูไนเต็ด เสมอ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 5-5)
น่าเหลือเชื่อที่เปลี่ยนกุนซือไป 3 คน ไม่มีใครในนั้นทำได้เลย และไม่มีใครที่ทำให้รู้สึกได้ถึงความเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด เลย จนกระทั่งเกมเมื่อคืนนี้
เป็นการผ่านด่านแรกไปแบบสวยงามและสมบูรณ์แบบ แต่การดีใจต้องหยุดไว้ก่อนเพียงเท่านี้ เพราะนักเตะและแฟนบอลจะต้องมองไปยังภารกิจต่อไปในการรับมือ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ที่จะมีขึ้นในวันแกะกล่องของขวัญ หรือ บ๊อกซิ่ง เดย์ ที่สำคัญคือมันจะมีขึ้นใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด
นอกจากจะเป็นการประเดิมคุมทีมใน โรงละครแห่งความฝัน มันยังเป็นเกมพิเศษของ โซลชา ที่จะได้ลงสนามในฐานะนายใหญ่ปีศาจแดง ซึ่งเขาแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่า อยากทำให้ โอลด์ แทรฟฟอร์ด กลับมาน่าเกรงขามเหมือนเดิมอย่างตอนที่เขายังเป็นนักเตะ
เรื่องนี้คงไม่ต่างจากแฟนบอลที่หวังจะให้ โอลด์ แทรฟฟอร์ด กลับมาเป็นป้อมปราการที่น่ากลัวอีกครั้ง ...
กับทิศทางที่เป็นไปในเกมแรก หลายสิ่งดำเนินการและแสดงออกมาในเชิงบวก ซึ่งนั่นถือเป็นการส่งสัญญาณที่ดีในการเริ่มต้น ภารกิจครั้งนี้ของ โซลชา ยังอีกยาวไกล และเขาเองก็พร้อมที่จะเดินไปทีละก้าว
แต่ ... มันก็ไม่แปลกที่แฟนบอลจะมองไปไกลกว่านั้น กับผลงานที่สะเด่าและมันหยดจากเกมที่ผ่านมา เพราะอย่างน้อยมันก็มีความสนุกและเพลิดเพลินกว่าที่ผ่านๆมา
เชื่อว่า หากนักเตะในทีมเล่นด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่สนุกสนานไปกับฟุตบอล ลงสนามไปพร้อมความมุ่งมั่นตั้งแต่ที่อยากจะแสดงผลงาน ผลการแข่งขันที่พวกเขาต้องการก็จะตามมาเอง
แท็คติกของกุนซือก็สำคัญไม่แพ้กันในฟุตบอลสมัยใหม่ แต่หากนักเตะไร้ใจและไม่สนุกกับมันก็เป็นสิ่งที่ไร้ผล ทว่าสิ่งที่เห็นจากนัดล่าสุดกลับต่างจากหลายเกมที่ผ่านๆมา สนุก, บุกมัน, เดินหน้า , ยิงแหลก
(จนหยดสุดท้าย) ไม่ต่างอะไรกับการได้หวนรำลึกไปถึงอดีตในวันวาน อดีตที่เคยตกหลุมรักสโมสรหนึ่งที่ชื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แม้จะเป็นแค่เกมแรก เกมหนึ่งๆ แต่เกมเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา มันทำให้เรารู้สึกว่าได้ว่าแมนฯ ยูไนเต็ดที่เราคุ้นเคย และเรารู้จักกันดีมันเป็นแบบนี้จริงๆ
-แมนคูเนี่ยน-
เพิ่มเติม: ข่าวฟุตบอล
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น